วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๑ เวลา ๑๘.๐๐ น. กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เปิดเผยถึงกรณีการย้ายข้าราชการ พส. ดังนี้
เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๑ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้มีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการ (หัวหน้าหน่วยงาน) จำนวน ๔๒ คน ให้ไปปฏิบัติราชการนอกพื้นที่ที่มีการสอบสวนวินัยและการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง รวมถึงข้าราชการซึ่งได้ถูกย้ายมาปฏิบัติราชการที่ส่วนกลางอยู่ก่อนแล้ว จำนวน ๑๗ คน ซึ่งในจำนวนนี้มีข้าราชการ ๖ คน ที่อยู่ระหว่างการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงของกระทรวง พม. ในการนี้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้มีคำสั่งแต่งตั้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวให้ไปปฏิบัติราชการนอกพื้นที่แล้วรวมทั้งสิ้น ๖๕ คน
การแต่งตั้งข้าราชการให้ไปปฏิบัติราชการต่างพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการบริหารงานบุคคล เพื่อประโยชน์ในการขับเคลื่อนภารกิจด้านการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งและกลุ่มผู้ด้อยโอกาสซึ่งจำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหรือสะดุดหยุดลง โดยบุคคลเหล่านี้ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหาที่อยู่ระหว่างกระบวนการสอบสวนซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ประกอบกับกระทรวง พม. และกรม พส. ได้กำหนดนโยบายและวางมาตรการบริหารความเสี่ยงเพื่อป้องกันการทุจริตอย่างรอบด้าน อาทิ การจ่ายเงินผ่านระบบ Krungthai Corporate Online การจัดสรรและอนุมัติการจ่ายเงินอุดหนุนในรูปแบบคณะกรรมการ การอบรมให้ความรู้ในการปฏิบัติงาน และการสร้างเสริมคุณธรรมและจริยธรรม แก่ผู้ปฏิบัติงาน และเพื่อเป็นการเปิดทางให้การสอบสวนวินัยและการไต่สวนข้อเท็จจริงดำเนินไปโดยสะดวก รวมทั้งเพื่อป้องกันการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน โดยไม่ได้เป็นการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ราชการ ในหน่วยงานเดิมที่ถูกสอบสวนวินัยและไต่สวนข้อเท็จจริง ทั้งนี้ หากผลการสอบสวนทางวินัยของกระทรวง พม.และกรม พส. แล้วเสร็จและปรากฏชัดว่าบุคคลใดกระทำความผิด หรือผลการไต่สวนข้อเท็จจริงของ ป.ป.ท. ชี้มูลว่าข้าราชการคนใดกระทำผิดวินัย กรม พส. จะพิจารณาโทษบุคคลนั้นตามฐานความผิด ส่วนกรณีที่ปรากฏผลว่าบุคคลใดไม่มีความผิดหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะพิจารณาให้บุคคลนั้นไปปฏิบัติราชการตามความเหมาะสมต่อไป