กทท. ออกมาตรการป้องกันคุณภาพอากาศในพื้นที่ ทกท. และ ทลฉ. อย่างเข้มงวดโดยการฉีดละอองน้ำกว่า 64,000 ลิตร แจกหน้ากากกันฝุ่น และดับเครื่องยนต์เมื่อไม่มีการใช้งาน เพื่อลดฝุ่นละออง
เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า กทท.ได้ดำเนินมาตรการป้องกันคุณภาพอากาศภายในพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) และท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ รวมทั้งรักษาสภาพแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของพนักงาน กทท. ผู้ใช้บริการ กทท. และผู้เกี่ยวข้อง ให้สภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และไม่เป็นแหล่งที่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 จากกิจกรรมการดำเนินงานของ กทท.
สำหรับมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 นั้น กทท. กำหนดให้ทุกหน่วยงานที่มิได้ปฏิบัติงานบรรทุกขนถ่ายสินค้าภายในพื้นที่ ทกท. ดับเครื่องยนต์ยานพาหนะและเครื่องมือทุ่นแรงของ กทท.ในทุกกรณี รวมทั้งเข้มงวดในการซ่อมบำรุงเครื่องมือทุ่นแรงทุกประเภทให้เป็นไปตามรอบการซ่อมบำรุง เพื่อลดการเกิดมลภาวะในอากาศ และได้ดำเนินการแจกหน้ากากกันฝุ่นให้กับพนักงานทุกคน เพื่อสุขภาพที่ดีของพนักงาน
นอกจากนี้ กองความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ทกท. ได้เฝ้าระวังแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 โดยฉีดละอองน้ำในแหล่งกำเนิดฝุ่น เพื่อควบคุมและกำจัดไม่ให้ฝุ่นแพร่กระจาย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม ออกตรวจวัดสภาพอากาศภายในพื้นที่ ทกท. อย่างเร่งด่วน ในส่วนของ ทลฉ. ได้มีมาตรการลดฝุ่น PM 2.5 โดยได้จัดรถดับเพลิงฉีดละอองน้ำควบคุมฝุ่นละอองที่เกิดจากยานพาหนะที่อยู่ในพื้นที่ลาน 70 ไร่ และสี่แยกต่าง ๆ บริเวณ ทลฉ. เพื่อควบคุมฝุ่นละออง โดยฉีดเป็นแนวนอนและแนวเฉียง ซึ่งใช้น้ำจำนวนมากกว่า 64,000 ลิตร และสามารถควบคุมสภาพอากาศให้อยู่ในสภาวะปกติ อีกทั้งขอความร่วมมือกับบริษัทผู้ประกอบการ ทลฉ. ทำความสะอาดลานตู้สินค้า การควบคุมรถบรรทุกสินค้าและเครื่องมือทุ่นแรงไม่ให้ปล่อยมลพิษ และให้ความร่วมมือเข้าร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day อีกทั้งสมาคมขนส่งจังหวัดชลบุรี ได้ให้ความร่วมมือในการควบคุมรถบรรทุกขณะ ขนถ่ายสินค้าให้อยู่ในสภาพที่ไม่ก่อมลพิษทางอากาศ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ให้ช่วยกวดขัน การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ของรถบรรทุกและยานพาหนะต่างๆ เพื่อไม่ให้ปล่อยควันดำ