ประธาน กสม. แนะประธานศาล ๒ ศาล แต่งตั้ง กสม. ชั่วคราว ๑ คน ฟื้นเกียรติภูมิสถาบันสิทธิฯ ของชาติ

“วัส ติงสมิตร” ประธาน กสม. แนะ ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดเร่งแต่งตั้ง กสม. ชั่วคราวอย่างน้อย ๑ คน ภายใน ๑๐ ต.ค. นี้ เพื่อขอคืนสถานะ A ให้ทันกำหนด ช่วยฟื้นเกียรติภูมิสถาบันสิทธิฯ ของชาติ

วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนได้มีหนังสือด่วนที่สุดเป็นฉบับที่ ๑๐ ถึงประธานศาลฎีกาและ
ประธานศาลปกครองสูงสุด ขอให้รีบแต่งตั้งบุคคลมาทำหน้าที่เป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นการชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๖๐  (พรป. กสม. ปี ๖๐) มาตรา ๖๐ ประกอบมาตรา ๒๒ ทั้งนี้เพื่อมิให้เกิดผลกระทบต่อเกียรติภูมิของประเทศชาติ

“เนื่องจากขณะนี้เหลือเวลาเพียง ๕ วันทำการที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ต้องประชุมเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในการส่งรายงานความสอดคล้องกับหลักการปารีสและ
เอกสารอื่น ๆ รวม ๕ รายการ โดยจัดทำเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือสเปน ทั้งในรูปแบบฉบับพิมพ์และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อประกอบการประเมินสถานะของ กสม.ไทยขึ้นใหม่ หรือการขอคืนสถานะ A ไปให้ฝ่ายเลขานุการของ Sub-Committee on Accreditation (SCA) ใน Global Alliance of National Human Rights Institutions (GANHRI) ที่ตั้งอยู่ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ภายในวันอังคารที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๒ นี้ ประกอบกับวันที่ ๑๒ – ๑๔ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นวันหยุดราชการ กสม. จึงต้องเปิดประชุม กสม. อย่างช้าในวันศุกร์ที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ หากเปิดประชุมไม่ทันวันดังกล่าว ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติในการยื่นขอคืนสถานะ A ของ กสม. ไทย” นายวัส กล่าว

ประธาน กสม. กล่าวอีกว่า การแต่งตั้งบุคคลมาทำหน้าที่ กสม.เป็นการชั่วคราว สามารถกระทำได้ไม่ยาก  โดยประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองอาจพิจารณาจากรายชื่อบุคคลซึ่งเข้ารับการสรรหามาหลายรอบ และผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการสรรหาฯ แล้วจำนวนหลายสิบรายชื่อก็ได้ ในจำนวนบุคคลดังกล่าวตนทราบมาว่ามีผู้ที่มีความพร้อมและเสียสละเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับ กสม.ที่เหลือ

“หากประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดร่วมกันแต่งตั้งบุคคลมาทำหน้าที่ กสม.เป็นการชั่วคราวอย่างน้อยเพียง ๑ คนก่อนภายในวันพฤหัสบดีที่ ๑๐ ตุลาคม นี้ กสม. ก็จะสามารถเปิดประชุมในวันศุกร์ที่ ๑๑ ตุลาคม นี้ได้ เพื่อพิจารณาส่งเอกสารการขอคืนสถานะจากเครือข่ายสถาบันสิทธิมนุษยชนสากล (GANHRI) ได้ทันกำหนดเส้นตาย ส่วนกรรมการชั่วคราวที่เหลือสามารถทยอยแต่งตั้งในภายหลังต่อไปก็ได้” นายวัส กล่าวในที่สุด

สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ