ธ.ก.ส. เปิดโครงการสินเชื่อปลูกป่าสร้างรายได้ ให้เกษตรกรในพื้นที่ป่าต้นน้ำใน 11 จังหวัด วงเงินสินเชื่อ 5,000 ล้านบาท เป้าหมายเกษตรกร 50,000 ราย เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร หนุนการปรับเปลี่ยนอาชีพ เพิ่มรายได้ ลดความเสี่ยงจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยว แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและการบุกรุกทำลายป่า สร้างความยั่งยืนสู่เศรษฐกิจฐานราก
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. ได้จัดทำโครงการสินเชื่อปลูกป่าสร้างรายได้ เพื่อสนับสนุนนโยบายการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน “ประชารัฐสร้างไทย” ด้วยการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการของชาวบ้านและชุมชน สามารถช่วยรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ช่วยยกระดับรายได้ คุณภาพชีวิตและรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีพื้นที่เป้าหมายที่ป่าไม้ถูกบุกรุกมากที่สุดและเป็นป่าต้นน้ำ ใน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน พะเยา ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ตาก และเลย ทั้งนี้เพื่อแก้ปัญหาการบุกรุกป่า ลดการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น ข้าวโพด อ้อย ที่มีความเสี่ยงด้านการผลิต ด้านราคาและมาตรการกีดกันทางการค้า พร้อมส่งเสริมการปรับเปลี่ยนการผลิตไปสู่การปลูกพืชที่หลากหลาย ควบคู่การปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่ารักษาสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง เช่น ปลูกไม้กินได้ ไม้ใช้สอย และไม้เศรษฐกิจ เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียน สามารถลดต้นทุนการผลิต และลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ตามแนวทางเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเอง โดยมีเป้าหมายเกษตรกรลูกค้าเข้าร่วมโครงการ 50,000 ราย เนื้อที่รวม 500,000 ไร่ วงเงินสินเชื่อรายละไม่เกิน 100,000 บาท รวม 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการต้องเป็นเกษตรกรลูกค้าที่มีหนี้สินเป็นภาระหนักหรือมีหนี้สินเดิมและต้องการปรับเปลี่ยนอาชีพเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม และผ่านการประเมินความสามารถในการประกอบอาชีพตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร โดยปลอดชำระต้นเงินไม่เกิน 5 ปีแรก นับแต่วันที่ขอกู้ คิดอัตราดอกเบี้ย ปีที่ 1 – 3 เท่ากับ MRR – 3 ปีที่ 4 – 6 เท่ากับ MRR – 2 ปีที่ 7 – 9 เท่ากับ MRR – 1 และปีที่ 10 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.875 ต่อปี) ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 กรกฏาคม 2564 และกำหนดชำระคืนเงินกู้ตามที่มาของรายได้ แต่ไม่เกิน 15 ปี โดยประเภทที่ดินของเกษตรกรลูกค้าที่สามารถเข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย ที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ได้แก่ โฉนดที่ดิน น.ส.3 ,น.ส.3 ก, น.ส.3 ข และ ส.ป.ก. 4-01 รวมถึงที่ดินที่รัฐอนุญาตให้ทำประโยชน์ ได้แก่ สทก.1 ก, สทก.2 ก, สทก.1 ข, น.ค3 ก, สน.5 และที่ดินที่ทางการอนุญาตอื่นๆ
“ธ.ก.ส. มุ่งหวังที่จะให้โครงการสินเชื่อปลูกป่าสร้างรายได้ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการปลูกพืชหมุนเวียนระยะสั้น ไม้ผลในระยะปานกลาง พืชสมุนไพร และเงินออมในรูปของไม้มีค่า สามารถเพิ่มพื้นที่ป่า สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี ช่วยแก้ปัญหาหนี้สิน ความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ อันนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคง ยั่งยืน สู่เศรษฐกิจฐานรากของประเทศ” นายอภิรมย์ กล่าว