วันที่ 25 กันยายน 2562 ณ ห้องประชุม ชั้น 7 สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA/ITBS) กรุงเทพมหานคร หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานมอบวุฒิบัตรแก่ผู้สำเร็จการฝึกอบรมภายใต้โครงการพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์รองรับธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 มีผู้สำเร็จการฝึกอบรมเข้ารับมอบวุฒิบัตร 102 คน
หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังจากเป็นประธานมอบวุฒิบัตรว่า โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาฝีมือแรงงานกับสมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) ในการผลิตแรงงานคุณภาพ (Super Worker) ป้อนอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีความต้องการกำลังคนในสาขานี้เป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในพื้นที่ รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอีกด้วย สอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และนโยบาย Workforce transformation ของกระทรวงแรงงาน ที่มุ่งปฏิรูปกำลังแรงงาน รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี นวัตกรรม เศรษฐกิจ และสังคมในอนาคต ที่สำคัญมุ่งแก้ปัญหาขาดแคลนกำลังแรงงานด้านโลจิสติกส์และแก้ไขปัญหาบัณทิตว่างงาน ในปัจจุบันมีผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ว่างงานมากกว่า 170,000 คน และขาดแคลนแรงงานระดับปริญญาตรีในธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศมากกว่า 5,000 คน
นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการนี้จะคัดเลือกผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีทุกสาขาที่ว่างงานหรือพึ่งจบการศึกษา อายุไม่เกิน 28 ปี เข้าทดสอบภาคความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโลจิสติกส์และด้านภาษาอังกฤษเข้ารับการฝึกอบรม พร้อมบรรจุเข้าทำงานเมื่อผ่านการฝึกอบรม สำหรับในปี 2562 สามารถผลิตบุคลากรได้จำนวน 305 คน แบ่งเป็นผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรธุรกิจการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ (ระยะเวลาการฝึกอบรม 480 ชั่วโมง) จำนวน 203 คน เข้าทำงานในตำแหน่งงานต่างๆ เช่น พนักงานดูแลลูกค้า พนักงานด้านการจัดการ พนักงานด้านการตลาด พนักงานต้อนรับ พนักงานคลังสินค้า เป็นต้น อีกจำนวน 102 คน ฝึกอบรมหลักสูตรการขนส่งทางทะเลและทางอากาศ (ระยะเวลาการฝึกอบรม 60 ชั่วโมง) เน้นกลุ่มเป้าหมายที่มีประสบการณ์และทำงานในกลุ่มอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ เพื่อพัฒนาต่อยอดการเป็นหัวหน้างาน เบื้องต้นมีรายได้เฉลี่ยไม่น้อยกว่าคนละ 18,000 บาทต่อเดือน สำหรับในวันนี้มีผู้สำเร็จการฝึกอบรมเข้ารับมอบวุฒิบัตรจำนวน102 คน
“เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ดีที่ยึดแนวทางประชารัฐ ซึ่งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันช่วยสร้างและพัฒนาแรงงานคุณภาพรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และมีทักษะตรงกับความต้องการของนายจ้างและสถานประกอบกิจการ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานได้ถูกจุด ผู้ว่างงานได้มีงานทำ ประกอบอาชีพให้มีความเจริญก้าวหน้า มีความมั่นคงในชีวิต กลายเป็นกำลังสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศต่อไป” อธิบดีกพร. กล่าว