ในวันอังคารที่ 29 เมษายน 2568 เวลา 08.00 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ยุติธรรมชุมชนตำบลบ้านกลาง ภายใต้โครงการยุติธรรมเคลื่อนที่เพื่อสร้างการรับรู้ด้านกฎหมายและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานบริการของกระทรวงยุติธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นางธารินี แสงสว่าง ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม คณะกรรมการศูนย์ยุติธรรมชุมชน ภาคีเครือข่ายภาคประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมฯ โดยมี นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นผู้กล่าวต้อนรับ ณ โรงเรียนศรีโคตรบูรณ์ ตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
ในการนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับฟังสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์ยุติธรรมชุมชนตำบลบ้านกลาง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โดยมี นายณัฐภูมิ อยู่ชัง ยุติธรรมจังหวัดนครพนม เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมทั้งได้มอบนโยบายการขับเคลื่อนศูนย์ยุติธรรมชุมชน โดยมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ความทุกข์ของประชาชน คือ ความทุกข์ของรัฐบาล ทั้งนี้ พบว่าปัญหาที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด คือ ปัญหาภัยคุกคามจากยาเสพติด การแก้ปัญหายาเสพติดจึงเป็นวาระเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะยาเสพติดทำลายทั้งครอบครัวและทำลายชุมชน ดังนั้น การส่งเสริมให้ครอบครัวและชุมชนมีความเข้มแข็งนับเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแก้ปัญหายาเสพติด รวมไปถึงปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ ปัญหาเรื่องหนี้สิน ไม่ว่าจะเป็นหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้ครัวเรือนหรือหนี้สินอื่น ๆ เราต้องทำให้ประชาชนได้รับการแก้หนี้ที่เป็นธรรม โดยปัจจุบัน กระทรวงยุติธรรม ได้พัฒนานำเทคโนโลยี AI มาใช้ในกระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยเหลือประชาชนในการให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการนำความยุติธรรมเข้าหาประชาชน และจำเป็นต้องทำให้ประชาชนมีความรู้ โดยการสร้างการรับรู้ด้านกฎหมายและงานบริการของกระทรวงยุติธรรม เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อหรือเครื่องมือจากภัยคุกคามต่าง ๆ
โอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 จำนวน 2 ราย รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 210,000 บาท แบ่งเป็น รายที่ 1 ความผิดต่อชีวิต ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 110,000 บาท และรายที่ 2 ความผิดต่อชีวิต ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 100,000 บาท
จากนั้น ได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ประกอบด้วย การให้บริการของสำนักงานยุติธรรมจังหวัดนครพนม คลินิกการให้คำปรึกษาเด็กและครอบครัวอบอุ่น การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ผ่านระบบ Session Call การนำอุปกรณ์ EM กับการเฝ้าระวังการกระทำผิดซ้ำในคดีอุกฉกรรจ์รุนแรง การให้ความรู้เกี่ยวกับโทษของยาเสพติด การให้คำปรึกษาสุขภาพจิตโดยนักจิตวิทยา โครงการป้องกันอาชญากรรมการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ช่องทางการเข้ารับบริการการตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรมแก่ราษฎรไร้สถานะและประสบปัญหาสถานะทางทะเบียน Application U-NAI (อยู่ไหน) เกี่ยวกับการรับแจ้งประกาศ ติดตามคนหาย คนนิรนาม และศพนิรนาม ตลอดจนภารกิจอัยการคุ้มครองสิทธิในการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาท