วันที่ 28 เมษายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นำคณะผู้บริหารกระทรวง ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม ตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานด้านแรงงานในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 ได้แก่ นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร ก่อนเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ในวันถัดไป โดยมี นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรัฐมนตรีช่วย ว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นเกียรติ ด้วย
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า วันนี้ผมและคณะ เยี่ยมชมการดำเนินงานด้านแรงงานคุณภาพของบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า (แม็คโคร สาขานครพนม) ซึ่งโดดเด่นในด้านการจ้างงานคนพิการในระบบ และการดำเนินโครงการ TO BE NUMBER ONE ที่ได้รับรางวัลต้นแบบระดับประเทศ ซึ่งผมขอชื่นชม พร้อมย้ำว่ากระทรวงแรงงานพร้อมยืนเคียงข้างภาคเอกชน สนับสนุนการพัฒนาทักษะ ส่งเสริมสุขภาวะ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง เพื่อให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
หลังจากนั้น ตรวจเยี่ยมโครงการฝึกอบรมทักษะอาชีพช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 41 นครพนม ให้แก่ทหารกองประจำการ ภายใต้ความร่วมมือกับมณฑลทหารบกที่ 210 เพื่อให้ทหารเกณฑ์ที่กำลังจะปลดประจำการ มีอาชีพติดตัว และสามารถนำไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคง รวมทั้ง ได้พบปะให้กำลังใจอาสาสมัครแรงงาน บัณฑิตแรงงาน และตรวจเยี่ยมบูธแสดงผลงานของแรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ และกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านจากจังหวัดนครพนม มุกดาหาร และสกลนคร โดยมีการสาธิตงานฝีมือพื้นถิ่น เช่น เครื่องดื่มสมุนไพร ไม้กวาดรีไซเคิล จักสานพลาสติก และงานพลังงานโซลาร์เซลล์ ฯลฯ
ไฮไลต์สำคัญ คือการส่งเสริม “กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน” ของกรมการจัดหางาน ซึ่งสามารถให้กู้สูงสุดถึง 300,000 บาท เพื่อส่งเสริมอาชีพอิสระ ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยสูง และสร้างรากฐานรายได้ที่มั่นคงให้ประชาชนในพื้นที่ชนบทและชุมชนเมือง
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ กล่าวเสริมว่า นายพิพัฒน์ รมว. แรงงาน ได้มอบนโยบายเร่งขับเคลื่อนงานแรงงานเชิงรุก 5 ด้าน ได้แก่ ขยายหลักประกันทางสังคมครอบคลุมแรงงานนอกระบบ พัฒนาทักษะฝีมือแรงงานรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ เร่งรัดการจัดหางานเชิงรุกให้ประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงงานดี รายได้ดี ส่งเสริมวัฒนธรรม “Zero Accident” สร้างสถานประกอบการปลอดภัย และผลักดันแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบประกันสังคม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ รัฐมนตรีฯ ยังได้ร่วมปลูกต้นรวงผึ้ง ณ ศูนย์ราชการกระทรวงแรงงาน จังหวัดนครพนม เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานไทยอย่างยั่งยืน
ในโอกาสนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้มอบเงินทดแทนกรณีเสียชีวิตจำนวน 1,731,862.70 บาท ให้แก่ทายาทของนายบุญรอด โอทาตะวงค์ ชาวจังหวัดนครพนม ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อาคารถล่มที่เกิดจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย- นายบุญสงค์ กล่าวปิดท้าย