วันที่ 23 เมษายน 2568 ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพฯ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หัวข้อ “ที่อยู่อาศัยและการขยายตัวของเมือง : ความเป็นผู้นำสู่การปฏิบัติจริง (Housing and Urbanization: Leadership in Action)” โดยมี คุณอนาคลาวเดีย โรสบาค (Ms. Anacláudia Rossbach) รองเลขาธิการสหประชาชาติ และผู้อำนวยการบริหารโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (UN-Habitat) และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการสัมมนา
นายอนุกูล กล่าวว่า การขยายตัวของเมืองในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดโอกาสและความท้าทายในประเด็นการเข้าถึงที่อยู่อาศัยและบริการพื้นฐานที่เพียงพอเหมาะสม สำหรับประชาชนทุกกลุ่ม อาทิ ผู้มีรายได้น้อย เด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเมืองต่างๆ ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสร้างพื้นฐานและที่อยู่อาศัย ขณะเดียวกันประเทศไทยกำลังเผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และประชากรในเขตเมืองอย่างต่อเนื่อง จึงต้องให้ความสำคัญกับการสร้างที่อยู่อาศัยและเมือง ที่สามารถรับมือและฟื้นตัวจากภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 เห็นชอบหลักการของวาระใหม่แห่งการพัฒนาเมือง (New Urban Agenda) หรือ NUA ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมประชุมสหประชาชาติ ว่าด้วยการพัฒนาที่อยู่อาศัยและเมืองอย่างยั่งยืน ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 17-20 ตุลาคม 2559 ณ กรุงกิโต ประเทศเอกวาดอร์ ในฐานะประธานประเทศกลุ่ม G-77 ได้ร่วมแสดงเจตนารมณ์รับรองวาระใหม่แห่งการพัฒนาเมือง ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยและเมืองอย่างยั่งยืนใน 20 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ การดำเนินงานด้านที่อยู่อาศัยของประเทศไทย ยังมีความสอดคล้องกับพันธกรณี และข้อตกลงระดับนานาชาติ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 11 การทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ มีความครอบคลุม ปลอดภัย ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง และยั่งยืน เป็นพื้นฐานสำคัญเชื่อมโยงกับการบรรลุเป้าหมายอื่นๆ ใน SDGs
นายอนุกูล กล่าวว่า การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) มีเป้าหมายให้คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัย มีคุณภาพชีวิตที่ดีภายในปี 2579 โดยกระทรวง พม. เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน ซึ่งมีแผนงานสำคัญ คือ การสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยที่ชุมชนเป็นแกนหลัก (Collective Housing) ได้แก่ “โครงการบ้านมั่นคง” เป็นแนวทางที่ได้ดำเนินการสอดคล้องกับวาระใหม่ของการพัฒนาเมือง ซึ่งประเทศไทยเชื่อมั่นว่า เมืองควรได้รับการพัฒนาโดยประชาชนที่อยู่อาศัยในเมืองเหล่านั้น โดยแนวคิดนี้ได้ถูกนำไปสู่การปฏิบัติผ่านโครงการที่อยู่อาศัยแบบมีส่วนร่วม อาทิ โครงการบ้านมั่นคง โครงการบ้านพูนสุขสำหรับคนไร้บ้าน รวมถึงโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทย ในการส่งเสริมการออกแบบการพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยชุมชน ภายใต้แนวคิด “การมีส่วนร่วมของคนในชุมชนอย่างแท้จริง” ตลอดจนการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิในการตัดสินใจร่วมกัน เกี่ยวกับการวางระบบสวัสดิการในที่อยู่อาศัยของชุมชน
นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยมีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยกระทรวง พม. เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมปลอดภัย และยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสำหรับคนทุกช่วงวัย ให้ทุกคนเข้าถึงที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม ซึ่งมีโครงการสำคัญ ได้แก่ 1) โครงการบ้านมั่นคง ที่มุ่งพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย โดยส่งเสริมให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา 2) โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ช่วยแก้ปัญหาชุมชนแออัดและพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับประชาชนในเขตเมือง 3) โครงการปรับปรุงที่อยู่อาศัยและความเป็นอยู่ของกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะผู้สูงอายุและคนพิการ ซึ่งรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณ หลังละ 40,000 บาท ต่อคน/ต่อปี โดยระหว่างปี 2560 – 2566 มีการปรับปรุงที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุกว่า 20,000 หลัง และคนพิการกว่า 16,000 หลัง และ 4) งานพัฒนาสภาพแวดล้อมชุมชนเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการปรับปรุงซ่อมแซมระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ต่อการใช้งานมีความปลอดภัยในการอยู่อาศัย มีสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยมีมาตรฐาน และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในชุมชน นอกจากนี้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ยังมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อนำสู่การจัดการและพึ่งพาตนเองได้
นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสัมมนาฯ ในครั้งนี้ จะเป็นวาระสำคัญที่ผู้บริหารระดับสูง รวมถึงผู้กำหนดนโยบายด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อยจากทุกภาคส่วน หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ ปัจจัยความสำเร็จในการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างเครือข่าย เพื่อร่วมมือกันพัฒนาเมืองที่เหมาะสมและเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง “ผู้นำที่ลงมือปฏิบัติจริง” ในการสร้างอนาคตที่มีความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยสำหรับทุกคน อีกทั้งขอขอบคุณ UN-Habitat ที่ได้ร่วมขับเคลื่อนวาระใหม่แห่งการพัฒนาเมืองในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง
#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5×5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #ที่อยู่อาศัยและการขยายตัวของเมือง #UN_Habitat