จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เวลา 04.00 น. กรณีอุบัติเหตุรถทัวร์ บริษัท 407 พัฒนา จำกัด ชนท้ายรถบรรทุกแป้ง บนทางหลวงหมายเลข 304 สี่แยกกบินทร์บุรี – วังน้ำเขียว กม.208+600 ม. ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 52 ราย และผู้เสียชีวิต จำนวน 7 ราย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใย และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมมอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บมีสถานนะความเป็นผู้ประกันตน จำนวน 19 ราย และผู้เสียชีวิตมีสถานะความเป็นผู้ประกันตน จำนวน 3 ราย ทั้งนี้ ได้กำชับการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทนต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์รวมประมาณล้านกว่าบาท และผู้ได้รับบาดเจ็บให้ได้รับสิทธิประโยชน์ค่ารักษาพยาบาล จากกองทุนประกันสังคมอย่างเต็มที่
ด้าน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมมอบหมายให้ประกันสังคมจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล พบว่า รถทัวร์ที่เกิดอุบัติเหตุเป็นของบริษัท 407 พัฒนา จำกัด ได้ออกเดินทางจากจังหวัดหนองคาย มุ่งหน้าส่งผู้โดยสารปลายทางที่จังหวัดระยอง มาถึงจุดเกิดเหตุ ขณะลงเขาลมเบรคหมดผู้ขับขี่ควบคุมรถไม่ได้ จึงได้เสียหลักพุ่งชนท้ายรถบรรทุกแป้ง ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ตัวรถทัวร์ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 25 ราย เสียชีวิต 7 ราย ตรวจสอบพบผู้ได้รับบาดเจ็บ มีสถานะเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 38 มาตรา 39 และมาตรา 40 รวมจำนวน 19 ราย โดยผู้เสียชีวิตมีสถานะเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 3 ราย ดังนี้
นายอัครเดช อายุ 42 ปี ตำแหน่งพนักงานขับรถมือ 1 เป็นลูกจ้างของบริษัท 407 พัฒนา จำกัด ทายาทผู้เสียชีวิตได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน เป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานและเงินบำเหน็จชราภาพ รวมทั้งสิ้น 1 ล้านกว่าบาท
นายพรชัย อายุ 44 ปี ตำแหน่งพนักงานขับรถมือ 2 เป็นลูกจ้างของบริษัท 407 พัฒนา จำกัด ทายาทผู้เสียชีวิตได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน เป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีถึงแก่ความตายเนื่องจากการทำงานและเงินบำเหน็จชราภาพ รวมทั้งสิ้น 1 ล้านกว่าบาท
นางสาวลัดดา อายุ 48 ปี เป็นผู้โดยสารในรถทัวร์ ทายาทผู้เสียชีวิตได้รับสิทธิจากกองทุนประกันสังคม เป็นเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย เงินบำเหน็จชราภาพ รวมทั้งสิ้น 1 แสนกว่าบาท
ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม ได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประกันตนที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมชี้แจงสิทธิประโยชน์ทั้ง 2 กองทุนแก่ทายาทผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บได้รับทราบแล้ว ในการนี้ นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้ฝากกำชับไปยังลูกจ้าง ผู้ประกันตนที่ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ หมั่นตรวจสอบความพร้อมของรถอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญอย่าประมาท เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็ขอให้มั่นใจว่า สำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลช่วยเหลือเยียวยาลูกจ้าง ผู้ประกันตน รวมทั้งทายาทของผู้เสียชีวิตให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วนในทุกกรณี