ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 เผย เหตุรถบัสโดยสารชนรถพ่วงทางลงเขาโทน จ.ปราจีนบุรี มีผู้เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บรวม 41 ราย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้ติดตามการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด รวมถึงการชันสูตรและส่งร่างกลับภูมิลำเนา พร้อมส่งทีม MCATT ดูแลสภาพจิตใจผู้สูญเสีย แนะ 7 วิธีช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนน
วันที่ 21 เมษายน 2568 นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 กล่าวถึงเหตุการณ์รถบัสโดยสารชนกับรถพ่วง 18 ล้อ บริเวณทางลงเขาโทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรีได้รายงานว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 01.10 น. ของวันที่ 21 เมษายน 2568 โดยรถบัสให้บริการเส้นทางหนองคาย–อุดรธานี–ระยอง ได้ออกเดินทางจากหนองคายเมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงเขาลมเบรกหมด ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนรถพ่วงบรรทุกแป้งจนเกิดเพลิงลุกไหม้ที่ด้านหน้าของรถบัส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บ 41 ราย แยกเป็น อาการสาหัสสีแดง 2 ราย อาการปานกลางสีเหลือง 6 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยสีเขียว 33 ราย ผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือตามแผนการตอบสนองอุบัติเหตุหมู่ของเขตสุขภาพที่ 6 โดยหน่วยกู้ชีพขั้นสูงของโรงพยาบาลนาดี โรงพยาบาลกบินทร์บุรี และมูลนิธิสัจจะพุทธธรรม และนำส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลตามมาตรฐานบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
นพ.โสภณกล่าวต่อว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงผู้ป่วยและผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงมอบหมายให้ตนติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลในพื้นที่ เพื่อให้การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด รวมถึงการชันสูตรศพและส่งร่างกลับภูมิลำเนา พร้อมทั้งจัดส่งทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต (MCATT) จากเครือข่ายโรงพยาบาลในเขตสุขภาพที่ 6 ลงพื้นที่ให้การดูแลสุขภาพจิตผู้ประสบเหตุและครอบครัว เพื่อป้องกันผลกระทบทางจิตใจทั้งระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เคยเกิดอุบัติเหตุใหญ่ที่บริเวณดังกล่าวมาแล้ว จึงได้กำชับให้หน่วยงานสาธารณสุขทุกแห่งในจังหวัดเตรียมความพร้อมของบุคลากร เวชภัณฑ์ ระบบส่งต่อ และบูรณาการกับหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางถนน เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำและลดความสูญเสีย
สำหรับข้อแนะนำเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน มี 7 วิธี ดังนี้ 1.ตรวจสอบสภาพรถก่อนออกเดินทาง ได้แก่ ยางรถยนต์ ระบบไฟ ที่ปัดน้ำฝน น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก น้ำในหม้อน้ำและหม้อพักน้ำ ระบบเบรกและครัตช์ และชุดเครื่องมือประจำรถ 2.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดขณะขับรถ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมทาง 3.ไม่ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 4.ก่อนขับรถทางไกล ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ง่วงไม่ขับ และหยุดพักรถตามจุดที่กำหนด 5.คาดเข็มขัดนิรภัยขณะขับรถและสวมหมวกกันน็อคเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทาง 6.งดการใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ และ 7.ขับขี่ยานพาหนะด้วยความระมัดระวัง และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด