วันที่ 7 เมษายน 2568 กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีบรรพชารวมใจไทย-พม่า กราบพระพุทธเสตังคศิลาคู่เมือง เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ภายใต้โครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย โดยมีพระราชระณังควชิรมุนี เจ้าคณะจังหวัดระนอง นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วยนายสุพจน์ ภูติเกียรติขจร ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา ผู้บริหารหน่วยงานในจังหวัดระนอง ผู้บริหารสถานศึกษา นาคสามเณร ผู้ปกครอง และพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธี ณ ศาลาการเปรียญพระวิสุทธิธรรมคณี วัดสุวรรณคีรีวิหาร ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง
นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ในปี พ.ศ. 2568 นับเป็นวาระอันเป็นมงคลที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา ซี่งในคราวประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 4/2568 เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติที่ 167/2568 เห็นชอบโครงการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม ค่านิยมและความเป็นไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ให้วัดในราชอาณาจักรไทยที่มีความพร้อมจัดกิจกรรมบรรพชาอุปสมบทและบวชศีลจาริณีภาคฤดูร้อน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน ระหว่างเดือนมีนาคม 2568 ถึงเดือนพฤษภาคม 2568 มอบเจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัด ทั้ง 2 ฝ่าย แจ้งวัดในเขตปกครองที่มีความพร้อมจัดบวชภายในห้วงเวลาดังกล่าว กรมการศาสนาจึงได้จัดบรรพชาสามเณรเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ ณ วัดสุวรรณคีรีวิหาร ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง รวมทั้งยังได้ร่วมกับคณะสงฆ์ จังหวัด สถานศึกษา และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการจัดกิจกรรมบรรพชาสามเณรและบวชศีลจาริณีในลักษณะการบูรณาการความร่วมมือกันเป็นพลังบวร บ้าน วัด ราชการ และโรงเรียน ในทุกภาคส่วน โดยคาดว่าจะมีเด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมทั่วประเทศรวมกว่า 100,000 คน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้มีโอกาสร่วมพิธีเฉลิมพระเกียรติฯ บำเพ็ญความดีถวายเป็นพระราชกุศล
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อว่า การที่ลูกชายได้บวชให้พ่อแม่ ไม่ว่าจะบวชเป็นสามเณรหรือพระภิกษุในสังคมไทยเชื่อกันว่าจะทำให้พ่อแม่ได้บุญใหญ่และอานิสงส์มาก เนื่องจากพ่อแม่คือบุคคลสำคัญยิ่งที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกได้มีโอกาสบวชเรียนศึกษาธรรม และยังเป็นการอุทิศผลบุญทำให้พ่อแม่ใจฟูเกิดความปีติ มีความสุขอิ่มเอิบใจ ซึ่งอานิสงส์นี้จะส่งเสริมเกื้อหนุนให้ผู้บวชเป็นผู้มีหน้าที่การงานเจริญรุ่งเรือง สุขภาพแข็งแรง มีสมาธิมั่นคงไม่วอกแวก สติปัญญาแจ่มใส จิตใจสงบเยือกเย็น มีความอดทนอดกลั้น มีระเบียบวินัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง สามารถปล่อยวางความทุกข์ใจได้ง่าย พิธีบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติฯ จัดขึ้น ณ ศาลาการเปรียญพระวิสุทธิธรรมคณี วัดสุวรรณคีรีวิหาร ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง ได้เปิดให้เด็กและเยาวชนลงทะเบียนรายงานตัว ในวันที่ 5 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น. สำหรับในวันที่ 6 เมษายน 2568 มีพิธีปลงผมเจ้านาค ในเวลา 13.00 น. ทำขวัญนาค ในเวลา 15.00 น. และในวันที่ 7 เมษายน 2568 ตั้งแต่เวลา 07.30 น. เป็นต้นไป ขบวนแห่ลูกนาคจากโรงเรียนสตรีระนอง นำโดยวงโยธวาธิต เรือพระเฉลิมพระเกียรติ โนราห์ เคลื่อนขบวนเข้าสู่ตลาดสะพานยูง จากนั้นเมื่อถึงวัดสุวรรณคีรีวิหารมีการแห่รอบพระอุโบสถ 3 รอบ เสร็จแล้วเวียนเข้าสู่ศาลาการเปรียญพระวิสุทธิธรรมคณี จากนั้นในเวลา 09.30 น. มีพิธีถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และพิธีบรรพชาสามเณรตามลำดับ ซึ่งในสังคมไทยนั้นพุทธศาสนิกชนถือว่าการบรรพชาสามเณรเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการี และผู้มีอุปการคุณอย่างสูง ซึ่งถือปฏิบัติสืบต่อกันมา และได้ร่วมสืบสานประเพณีการบรรพชาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คงอยู่คู่สังคมไทย รวมทั้งส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน มีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัย มีจิตสาธารณะ มีจิตใจที่เข้มแข็งเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ นอกจากเด็ก เยาวชนจะได้เข้าร่วมบรรพชาสามเณรแล้ว ยังได้เรียนรู้ภาควิชาการทางพระพุทธศาสนา ภาคปฏิบัติและการทำกิจกรรมร่วมกันของสามเณรนับเป็นการสร้างความรู้จักคุ้นเคยและส่งเสริมความรักสามัคคีในหมู่คณะ โดยการศึกษาเรียนรู้หลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาได้มีการคัดสรรให้มีความเหมาะสมกับวัย เพื่อให้นำหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ เมื่อลาสิกขาแล้วจะได้น้อมนำหลักธรรมทางศาสนาไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาตนเองให้มีจิตใจที่เข้มแข็งเป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพของสังคมและประเทศชาติสืบต่อไป