“นายกรัฐมนตรี” – ครม. ชื่นมื่นร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ไทย “เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์” ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์บ้านฉัน สีสันแบบไทย สุขไกลทั่วโลก Once in a Lifetime : Experience Songkran in Thailand”

(8 เมษายน 2568 เวลา 09.30 น.) ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การจัดงานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2568 ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์บ้านฉัน สีสันแบบไทย สุขไกลทั่วโลก Once in a Lifetime : Experience Songkran in Thailand” ดึงวิถีประเพณีไทย อัตลักษณ์ที่โดดเด่น เสริมจุดแข็ง สร้างเสน่ห์ ให้ประเทศไทย
เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการมาเยือน

ในโอกาสนี้ นางสาวแพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เยี่ยมชมกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การจัดงานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2568 ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์บ้านฉัน สีสันแบบไทย สุขไกลทั่วโลก Once in a Lifetime : Experience Songkran in Thailand” ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี นายประสพ  เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางยุถิกา อิศรางกูร ณ อยุธยา รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม) นางสาววราพรรณ  ชัยชนะศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางสาวฐิต์ณัฐ สมบัติศิริ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกรมส่งเสริมวัฒนธรรม 
ให้การต้อนรับ

นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ รับชมการแสดงการเล่นของเด็กไทย จากนั้น นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำเสนอภาพรวมคุณค่าสารัตถะอันดีงามของการจัดงานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2568 ได้แก่ กิจกรรมสรงน้ำพระ การสาธิตการรดน้ำ 4 ภาค และการสาธิตการทำน้ำอบและแป้งพวง

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่าภาพรวม
การจัดงานสืบสานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2568 ของกระทรวงวัฒนธรรมในปีนี้ มุ่งเน้นการจัดงานภายใต้กรอบแนวทาง 4 มิติ 17 มาตรการรณรงค์ ได้แก่ มิติด้านวัฒนธรรม มิติด้านเศรษฐกิจ มิติด้านสังคม และมิติด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีสงกรานต์ โดยเน้นเรื่องคุณค่าสาระที่ถูกต้อง
ของวัฒนธรรม ประเพณีที่ดีงาม คำนึงถึงความเหมาะสมของแต่ละท้องถิ่นที่มีภูมิหลังของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เพื่อเป็นทุนทางวัฒนธรรมในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของชุมชนและของประเทศ รวมถึงการร่วมด้วยช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยกำหนดจัดงานในพื้นที่ 17 จังหวัด และพื้นที่ส่วนกลางกรุงเทพมหานคร
ในส่วนของการจัดงาน 5 เมืองอัตลักษณ์ได้แก่
• การจัดงานประเพณี ป๋าเวณี ปี๋ใหม่เมือง จังหวัดเชียงใหม่ (12 – 16 เม.ย. 68) กิจกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ ขบวนแห่รอบคูเมืองเชียงใหม่ นิทรรศการสงกรานต์ล้านนา การแสดงศิลปวัฒนธรรม การทำบุญตักบาตรวันสงกรานต์
• การจัดงานวิถีชีวิตชาวอีสาน ถนนข้าวเหนียว จังหวัดขอนแก่น (8 – 15 เม.ย. 2568)กิจกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ ประเพณีสงกรานต์อีสานดั้งเดิม งานสืบสานสงกรานต์วิถีไทยบ้าน รดน้ำขอพรผู้สูงอายุ เทศกาลดอกคูนเสียงแคน การแสดง แสงสีเสียง การเล่นคลื่นมนุษย์ไร้แอลกอฮอล์
• การจัดงาน ชลบุรี อัตลักษณ์วิถีชีวิต Pattaya Old Town (17 – 19 เม.ย. 2568)กิจกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ รำวงย้อนยุค การละเล่นพื้นบ้าน การสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์โบราณ ประติมากรรมเจดีย์ทรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
• การจัดงาน จังหวัดสมุทรปราการ อัตลักษณ์วิถีชีวิตชุมชนมอญ (12 – 13 และ 25 – 27 เม.ย. 68) กิจกรรมที่โดดเด่น ได้แก่สาธิตการทำธงตะขาบ การละเล่นพื้นบ้าน (สะบ้ารามัญ) ขบวนรถบุปผชาติ วิถีชีวิตชุมชนมอญ
• การจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนคร หนึ่งเดียวในไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช (11 – 15 เม.ย. 68) กิจกรรมที่โดดเด่น ได้แก่ สรงน้ำพระบรมธาตุ ประเพณีแห่นางดาน และพิธีโล้ชิงช้า หนึ่งเดียวในไทย
พร้อมด้วย 12 เมืองน่าเที่ยว ที่มีความโดดเด่นทางอัตลักษณ์ทั้ง 4 ภาค ประกอบด้วย
• ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่าน และจังหวัดนครสวรรค์
• ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดลพบุรี
• ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดหนองคาย และจังหวัดสุรินทร์
• ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสงขลา จังหวัดพัทลุง และจังหวัดภูเก็ต
และในพื้นที่ส่วนกลาง 8 จุดหมายกรุงเทพมหานคร ได้แก่
• สามย่านมิตรทาวน์
• ถนนสีลม
• ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์
• วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร
• ไอคอนสยาม
• ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
• สยามสแควร์
• ท้องสนามหลวง

โดยเน้นบรรยากาศดั้งเดิม คำนึงถึงความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม และความเหมาะสม
ตามวัฒนธรรมของแต่ละพื้นที่ พร้อมรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนสนับสนุนศิลปินแห่งชาติและศิลปินพื้นบ้านในการแสดงทางวัฒนธรรมที่มีความโดดเด่นของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนงานตามบันทึกความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมด้านการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ระหว่างกระทรวงวัฒนธรรมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรุงเทพมหานคร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดทำทำเนียบนามศิลปินแห่งชาติและศิลปินพื้นบ้าน
ทุกสาขา เพื่อให้สะดวกสำหรับการจ้างงานและการประสานงาน

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวต่อว่า รัฐบาล และทุกภาคส่วน ร่วมบูรณาการในการส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ โดยจัดงาน “เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์” ทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมประเพณีไทย นำเสนอความงดงามของวัฒนธรรมไทยและต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มาร่วมสัมผัสประสบการณ์สงกรานต์และร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลนี้อย่างยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน และมีความคาดหวังผลในการส่งเสริมประเพณีสงกรานต์ในปีนี้ ให้คนไทยทั่วโลกภาคภูมิใจและร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ พร้อมยกระดับประเพณีสงกรานต์สู่ World Event เป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยมีการคาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้จากงานเทศกาลสงกรานต์ 2568 นี้ ได้ถึง 26,500 ล้านบาท / และจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาร่วมงานถึง 476,000 คน / และนักท่องเที่ยวไทยเพิ่ม 4,418,500 คน

สุดท้าย นางสาวสุดาวรรณ ฝากถึงพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวว่าประเพณีสงกรานต์เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยที่มีความหมายมากกว่าการเล่นน้ำ แต่เป็นเทศกาลแห่งความรัก ความกตัญญู และความอบอุ่นของครอบครัว ซึ่งควรค่าแก่การส่งต่อไปสู่สายตาชาวโลก “สงกรานต์ไทยคือมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบทอดให้คนรุ่นหลัง เราต้องการให้สงกรานต์เป็นเทศกาลที่ทุกคนต้องมาเยือน อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต”

กระทรวงวัฒนธรรมขอเชิญชวนทุกท่านเตรียมตัวให้พร้อมกับสงกรานต์ ๒๕๖๘ ซึ่งจะเป็นเทศกาล
ที่มอบประสบการณ์สุดประทับใจให้แก่ทั้งคนไทยและชาวโลก ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์กรมส่งเสริมวัฒนธรรม: www.culture.go.th หรือ Facebook กรมส่งเสริมวัฒนธรรม