วันนี้ 27 กุมภาพันธ์ 2568 นางจตุพร โรจนพานิช รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวต้อนรับในการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงว่าด้วยความร่วมมือด้านการคุ้มครองเด็กระหว่างประเทศ ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา ครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 – 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยมี H.E. Nhep Sopheap รัฐมนตรีช่วยกระทรวงกิจการสังคม ทหารผ่านศึก และการฟื้นฟูเยาวชน ราชอาณาจักรกัมพูชา กล่าวรายงาน ณ โรงแรมพูลแมน กรุงเทพ กรุงเทพฯ
นางจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทยและประเทศกัมพูชา เข้าเป็นรัฐภาคีอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ในปี พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) ซึ่งมีพันธกรณีที่ต้องดูแลเด็กทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติ ที่ผ่านมา ไทยกับกัมพูชามีความร่วมมือที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง อาทิ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีในการปราบปรามการค้ามนุษย์และการให้ความคุ้มครองเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2557
นางจตุพร กล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานการณ์การอพยพโยกย้ายถิ่นฐานระหว่างทั้งสองประเทศที่ใกล้ชิดกันอย่างไทยกับกัมพูชาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อโอกาสทางเศรษฐกิจและการศึกษา หรือหลบหนีจากภัยพิบัติต่าง ๆ ทั้งนี้ กลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็ก มีโอกาสตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยง ถูกละเมิด ถูกกระทำความรุนแรง และถูกแสวงประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งระหว่างการเดินทางและจุดหมายปลายทาง ดังนั้น ในปี พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019) ผู้นำอาเซียนได้รับรองปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิของเด็กในบริบทของการโยกย้ายถิ่นฐาน (ASEAN Declaration on the Rights of Children in the Context of Migration) ซึ่งสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเสริมสร้างความร่วมมือมากยิ่งขึ้น เพื่อขยายความช่วยเหลือและการคุ้มครองเด็กในบริบทการโยกย้ายถิ่นฐาน และแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยการอนุวัติการปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยสิทธิของเด็กในบริบทของการโยกย้ายถิ่นฐาน (Regional Plan of Action on Implementing the ASEAN Declaration on the Rights of Children in the Context of Migration) ที่ระบุถึงการส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกอาเซียน จัดตั้งเครือข่ายการคุ้มครองเด็กระดับภูมิภาคและระดับทวิภาคี รวมถึงการติดตามและการช่วยให้เด็กได้อยู่ร่วมกับครอบครัวอีกครั้ง สำหรับเด็กที่เดินทางโดยลำพัง หรือเด็กที่พลัดพรากจากผู้ปกครองอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทย โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้กำหนดให้การจัดทำบันทึกความเข้าใจ ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือในการคุ้มครองเด็กในบริบทของการอพยพโยกย้ายถิ่นฐาน ซึ่งเป็น 1 ในกิจกรรมสำคัญของพันธกิจสำคัญ (Flagship) ด้านที่ 6 ขับเคลื่อนันธกรณีระหว่างประเทศที่สำคัญ ในปีงบประมาณ 2568 โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำงาน เพื่อการคุ้มครองเด็กในบริบทของการโยกย้ายถิ่นฐาน ที่จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะมีเจตนารมณ์เดียวกัน คือหวังให้เด็กทุกคนได้รับการปกป้อง คุ้มครอง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัย
#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #5×5ฝ่าวิกฤติประชากร #พมหนึ่งเดียว #วราวุธศิลปอาชา #ศบปภ #พันธกิจสำคัญ9ด้าน #ความร่วมมือด้านการคุ้มครองเด็กและระหว่างประเทศ #ไทยกัมพูชา