เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ดร.สุรสีห์ กิติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วย นายวินัย วังพิมล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สทนช. และนางสาวปิยะชนก อิสโร ผู้อำนวยการกลุ่มความร่วมมือพหุภาคี กองการต่างประเทศ สทนช. ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารสภาน้ำแห่งเอเชีย (22nd Board of Council Meeting: 22nd BoC) ณ โรงแรม Hyatt Regency กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งมี นาย Seogdae Yun ในฐานะประธานคณะกรรมการสภาน้ำแห่งเอเชีย กล่าวเปิดงาน โดยได้รับเกียรติจากผู้แทนระดับสูงของประเทศเจ้าภาพ นำโดย ฯพณฯ Thor Chetha รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำและอุตุนิยมวิทยา (MoWRAM) และสมาชิกสภาแห่งชาติกัมพูชา ร่วมกล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมจากทั่วภูมิภาคเอเชีย ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรน้ำของอุซเบกิสถาน ได้แสดงความยินดีต่อการประชุมครั้งนี้และเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านน้ำในระดับภูมิภาค
การประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการบริหารจัดการน้ำและติดตามความคืบหน้าโครงการด้านน้ำ โดยหนึ่งในประเด็นสำคัญของการประชุมคือ การรายงานผลลัพธ์การจัดประชุม 3rd AIWW ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน และการรายงานความคืบหน้าการเตรียมการสำหรับการเป็นเจ้าภาพจัดงานสัปดาห์น้ำแห่งเอเชีย (4th Asia International Water Week: 4th AIWW) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในปี 2570 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดย สทนช. ในฐานะคณะกรรมการบริหาร AWC ได้แสดงความพร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ และยินดีสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม 25th BoC ในปี 2569 ในประเทศไทย เพื่อร่วมผลักดันการแก้ไขปัญหาด้านน้ำในระดับภูมิภาค ขณะที่มองโกเลียเสนอเป็นเจ้าภาพ 24th BoC ในปี 2568
เลขาธิการ สทนช. และคณะผู้แทน ได้เข้าร่วมงาน Technical Seminar & EXPO ซึ่งมีการนำเสนอภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของประเทศกัมพูชา รวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีด้านน้ำล้ำสมัยจากสาธารณรัฐเกาหลี เช่น ระบบเตือนภัยน้ำท่วมด้วย AI แพลตฟอร์ม Digital Twin เพื่อบริหารโครงสร้างพื้นฐานใต้ดิน และเซนเซอร์อัจฉริยะ (Smart Sensors) สำหรับติดตามการใช้น้ำแบบเรียลไทม์ พร้อมการประชุมเชิงธุรกิจ (Business Meeting) สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
ในโอกาสนี้ เลขาธิการ สทนช. ได้หารือทวิภาคีกับ ฯพณฯ Thor Chetha เกี่ยวกับแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือด้านน้ำระหว่างไทยและกัมพูชา โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะร่วมกันผลักดันการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือในอนาคต ซึ่งจะนำไปสู่โครงการริเริ่มร่วมกัน เช่น โครงการ “9T9T” ที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนและการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ นอกจากนี้ กัมพูชาได้แสดงความสนใจในการจัดทำโครงการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยจะประสานงานกับ สทนช. ในลำดับถัดไป เพื่อร่วมกันพัฒนาแนวทางบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค ที่ประชุมได้กำหนดแผนติดตามผลโครงการต่าง ๆ และเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุม 23rd BoC ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2568 เพื่อเดินหน้าผลักดันแนวทางการบริหารจัดการน้ำที่มั่นคง ยั่งยืน และทันสมัยยิ่งขึ้นในเอเชีย