สถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 22 ก.พ. 68 เวลา 7.00 น.

1.สภาพอากาศวันนี้ : ลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคตะวันออก และภาคกลาง ประกอบกับมีลมฝ่ายตะวันตกในระดับบนพัดปกคลุมภาคเหนือและด้านตะวันตกของภาคกลาง.ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

คาดการณ์ : ในวันที่ 23 – 25 ก.พ. 68 ยังคงมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับจะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีสภาพอากาศแปรปรวน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง มีลูกเห็บตกบางแห่งบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอุณหภูมิจะลดลง ส่วนภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 69% ของความจุเก็บกัก (55,317 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 54% (31,289 ล้าน ลบ.ม.)
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุดหรือมีน้ำใช้การน้อยกว่า 30% 4 แห่ง ดังนี้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จุฬาภรณ์ ลำตะคอง และสิรินธร
ภาคตะวันออก : คลองสียัด

3. คุณภาพน้ำ : แม่น้ำสายหลัก 4 สาย (เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และบางปะกง) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

4. แจ้งเตือน : สทนช. แจ้งเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำท่วมขัง บริเวณชุมชนเมืองที่เกิดปัญหาระบายน้ำไม่ทัน ในช่วงวันที่ 23 – 27 ก.พ. 68 ดังนี้
1. ภาคตะวันออก ได้แก่ จ.ชลบุรี (อ.เมืองฯ บางละมุง และศรีราชา) และ จ.ระยอง (อ.เมืองฯ บ้านค่าย เขาชะเมา ปลวกแดง และนิคมพัฒนา)
2. ภาคตะวันตก ได้แก่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ (อ.เมืองฯ ทับสะแก บางสะพาน และบางสะพานน้อย)
3. ภาคใต้ ได้แก่ จ.ชุมพร (อ.เมืองฯ สวี ทุ่งตะโก หลังสวน และละแม) จ.สุราษฎร์ธานี (อ.เมืองฯ ท่าชนะ ไชยา และดอนสัก) จ.นครศรีธรรมราช (อ.เมืองฯ ขนอม สิชล ท่าศาลา นบพิตำ พรหมคีรี หัวไทร ชะอวด เชียรใหญ่ และปากพนัง) จ.พัทลุง (อ. เมืองฯ ควนขนุน เขาชัยสน บางแก้ว และปากพะยูน) และ จ.สงขลา (อ.เมืองฯ ระโนด กระแสสินธุ์ สทิงพระ และสิงหนคร)

5. ข่าวประชาสัมพันธ์ : วานนี้ (21 ก.พ. 68) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 2/2568 และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมีผลการประชุมที่สำคัญ ดังนี้

1. รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานตามมาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2567/2568 โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แผนการจัดสรรน้ำให้เกษตรกรทราบ เพื่อวางแผนการเพาะปลูกให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ให้หน่วยงานเร่งสำรวจพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เกิดปัญหาน้ำแล้งซ้ำซาก และหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน รวมถึงเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือ และรถบรรทุกน้ำให้พร้อมสำหรับช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งให้ติดตามและเฝ้าระวังปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำ และรณรงค์ให้ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัด

2. เห็นชอบ (ร่าง) มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน ปี 2568 และส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในฤดูแล้ง ปี 2568/2569 และให้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

3. เห็นชอบกลไกการแจ้งเตือนอุทกภัย ซึ่ง สทนช. ได้ถอดบทเรียนจากการดำเนินงานในช่วงฤดูฝนปี 2567 และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนภัยตามที่ สทนช. เสนอ พร้อมทั้งให้ซักซ้อมความเข้าใจในกระบวนการการแจ้งเตือนให้กับประชาชนเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด

4. เห็นชอบการปรับปรุงแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี

5. เห็นชอบผังน้ำ จำนวน 7 ลุ่มน้ำ ได้แก่ ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำบางปะกง ลุ่มน้ำโตนเลสาบ ลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันออก และลุ่มน้ำเพชรบุรี–ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อนำไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปประกอบเป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำต่อไป