วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการเพื่อกำหนดแนวทางการจัดงานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2568 โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร และผู้แทน 28 หน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชนต่าง ๆ เข้าร่วม ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ชั้น 8 กระทรวงวัฒนธรรม และระบบออนไลน์
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการบูรณาการเพื่อกำหนดแนวทางการจัดงานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2568 เป็นการบูรณาการความร่วมมือกับ 28 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมขับเคลื่อน ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจจราจร กรมการขนส่งทางบก กรมการท่องเที่ยว กรมการศาสนา กรมศิลปากร สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กรมควบคุมโรค กรมทรัพยากรน้ำ กรมประชาสัมพันธ์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมสารนิเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร มูลนิธิเมาไม่ขับ และกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อยกระดับสงกรานต์ไทยให้เป็นเทศกาลระดับโลก สอดรับแนวทางขับเคลื่อน Soft Power ไทยตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรม ในการส่งเสริมทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นทุนทางเศรษฐกิจ ชูอัตลักษณ์ท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก ตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 25 ประเทศที่มีอิทธิพลด้าน Soft Power ในมิติวัฒนธรรม ในปี พ.ศ. 2570 ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์บ้านฉัน สีสันแบบไทย สุขไกลทั่วโลก” (Once in a Lifetime: Experience Songkran in Thailand) โดยภาษาไทย สื่อถึงคนไทยที่พร้อมเป็นเจ้าบ้านที่ดีมีความภาคภูมิใจในความเป็นไทยอัตลักษณ์ไทยเพื่อเตรียมตัวรับชาวต่างชาติ ทั้งยังสื่อถึงช่วงเวลาแห่งความรักความกตัญญูความสุขในครอบครัวและความหลายหลายทางอัตลักษณ์ของสงกรานต์และให้ได้ย้อนรำลึกถึงสงกรานต์วันวานที่สามารถส่งพลังแห่งความสุขให้ทั่วโลกได้ในปัจจุบัน ส่วนภาษาอังกฤษ ได้เชิญชวนให้ชาวต่างชาติไม่ควรพลาดสัมผัสประสบการณ์สงกรานต์ไทยซึ่งเป็นทศกาลระดับโลก อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต
นางสาวสุดาวรรณ กล่าวอีกว่า การจัดงานสงกรานต์ปีนี้มุ่งเน้นการนำเสนออัตลักษณ์ของแต่ละภูมิภาค เชื่อมโยงอดีต-ปัจจุบัน พร้อมสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อดึงดูดให้กลับมาเยือนไทยอีกครั้ง โดยมีการกำหนดแนวทางการณรงค์ร่วมกันใน 4 มิติ 17 มาตรการรณรงค์ ดังนี้ 1) มิติด้านวัฒนธรรม ประกอบด้วย 1.สนับสนุนทุกภาคส่วนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรมเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ในทุกระดับ 2. พิจารณาจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์ที่เป็นการสร้างความตระหนักและสร้างการรับรู้ต่อประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ในประเทศไทยที่ได้รับการประกาศจาก UNESCO ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ 3. พิจารณาจัดกิจกรรมสืบสานประเพณีสงกรานต์โดยเน้นเรื่องคุณค่าและสาระที่ถูกต้องของวัฒนธรรม ประเพณี โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของแต่ละท้องถิ่นที่มีภูมิหลังของวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การเปิดกว้างทางความคิดและเปิดรับความหลากหลายทางอัตลักษณ์ 4. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนชูจุดเด่นของเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ เป็นเทศกาลแห่งความสุขและสนุกสนาน 5. ส่งเสริมให้จังหวัดต่าง ๆ ใช้พื้นที่จัดกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมในประเพณีสงกรานต์ เพื่อร่วมกันสืบสานประเพณีที่ดีงาม เหมาะสม 6. รณรงค์ให้ประชาชนสืบสานคุณค่าสาระและสิ่งที่ควรทำของประเพณีสงกรานต์ 7. สร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทยในแต่ละพื้นที่ในการเข้าร่วมกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์และเพื่อสร้างการรับรู้อัตลักษณ์ความเป็นไทยในโอกาสการจัดประเพณีสงกรานต์ต่อชาวต่างชาติ เช่น การแต่งกายแบบไทย อาหารไทยเลิศรส งานช่างฝีมือดั้งเดิม การเล่นและกีฬาพื้นบ้าน 8. ขอความร่วมมือหน่วยงานต่าง ๆ สนับสนุนศิลปินแห่งชาติหรือศิลปินพื้นบ้านในการแสดงทางวัฒนธรรม และให้เด็ก เยาวชน ประชาชนทั่วไปได้ร่วมกันสืบสานประเพณี โดยคำนึงถึงวัฒนธรรมที่ถูกต้องเหมาะสม
2) มิติด้านเศรษฐกิจ 1. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนสร้างสรรค์กิจกรรมที่พัฒนาต่อยอดจากคุณค่าสาระของประเพณีสงกรานต์ดั้งเดิม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของชุมชนและของประเทศ 2. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ส่งเสริมการต่อยอดเทศกาลสงกรานต์ด้วยไอเดียใหม่ ๆ เช่น ฟิลเตอร์ AR สงกรานต์ นำเสนอสงกรานต์ผ่าน Soft Power เช่น ศิลปะ ดนตรี แฟชั่น อาหาร เป็นต้น 3. สนับสนุนให้ประชาชนใช้สื่อโซเชียลมีเดียเผยเพื่อแพร่ภาพการเข้าร่วมกิจกรรมสงกรานต์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้ชาวต่างชาติเกิดการรับรู้ สร้างแรงจูงใจให้มาท่องเที่ยวในประเทศไทย
3) มิติด้านสังคม
1. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนสื่อสารต่อประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ให้คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน 2. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนสื่อสารต่อประชาชนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎจราจรอย่างเคร่งครัด ตลอดจนการสร้างความมั่นใจต่อประชาชนเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย 3. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนสื่อสารต่อประชาชนให้ปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อของกระทรวงสาธารณสุข 4. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนสื่อสารต่อประชาชนให้งดเล่นแป้ง หรือวัตถุที่เป็นอันตรายต่อประชาชน
4) มิติด้านสิ่งแวดล้อม 1. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ร่วมกันกำจัดขยะที่เกิดจากการสืบสานประเพณีสงกรานต์ หรือลดขยะให้เป็นศูนย์ ตามแนวคิด Zero Waste ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ทางบก และทางอากาศ 2. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนสื่อสารต่อประชาชนร่วมประเพณีสงกรานต์ด้วยความตระหนักในการประหยัดทรัพยากรน้ำ รวมถึงการอนุรักษ์แหล่งน้ำและสิ่งแวดล้อม
“สงกรานต์ไทยคือมรดกทางวัฒนธรรมที่มีความหมายมากกว่าการเล่นน้ำ เราต้องการส่งต่อความงดงามนี้สู่สายตาคนทั่วโลก ให้สงกรานต์เป็นเทศกาลที่ทุกคนต้องมาเยือนอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต” นางสาวสุดาวรรณ กล่าว
เตรียมตัวให้พร้อม ! พบกับสงกรานต์ 2568 ที่จะมอบประสบการณ์สุดประทับใจให้แก่คนไทยทั้งประเทศและคนทั่วโลก ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์กรมส่งเสริมวัฒนธรรม : www.culture.go.th หรือ Facebook กรมส่งเสริมวัฒนธรรม