นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมมีนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมให้เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการเพิ่มขีดความสามารถ ซึ่งในส่วนของโบราณสถานนั้นจะมีการเสริมสร้างระบบนิเวศและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจวัฒนธรรม จะมีการยกระดับการบริการของพิพิธภัณฑ์โบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์ และมีการส่งเสริม สร้างสรรค์ทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นทุนทางเศรษฐกิจ โดยให้มีแหล่งมรดกโลกครบทุกภูมิภาคและเร่งการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับโลก
“ได้รับรายงานความคืบหน้าจากนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ในการจัดทำเอกสารเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของแหล่งสงขลาและชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา เพื่อเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ขณะนี้อยู่ระหว่างจังหวัดสงขลากำลังศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลทางวิชาการและการบริหารจัดการพื้นที่ รวมถึงกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อเรียบเรียงเอกสารขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก (Nomination Dossier) ฉบับสมบูรณ์ เข้าสู่กระบวนการพิจารณาภายในประเทศและนำส่งต่อศูนย์มรดกโลก สำหรับพื้นที่นำเสนอขอประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกประกอบด้วย 4 พื้นที่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานรอบทะเลสาบสงขลา ได้แก่ 1.เมืองโบราณพังยาง พะโคะ และสีหยัง 2. เมืองโบราณสทิงพระ 3. เมืองป้อมค่ายซิงกอรา ณ เขาแดง และแหลมสน และ 4. เมืองเก่าสงขลา บ่อยาง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าว
รมว.วธ. กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ศูนย์มรดกโลก องค์การยูเนสโก มีหนังสือถึงประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ราชอาณาจักรไทย เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา แจ้งการบรรจุรายชื่อ แหล่งสงขลาและชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลาเข้าสู่บัญชีชั่วคราว (TentativeList) ในชื่อ Songkhla and Its Associated Lagoon Settlements ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2567 และในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 46 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ได้มีการประกาศรับรองการบรรจุรายชื่อแหล่งสงขลาฯ ในบัญชีชั่วคราว
ทั้งนี้ การนำเสนอแหล่งมรดกวัฒนธรรมสงขลาฯ เข้าสู่บัญชีชั่วคราว ได้นำเสนอคุณค่าโดดเด่นระดับสากล (OUV) ในฐานะตัวแทนศูนย์กลางชุมชนที่ตั้งถิ่นฐานริมทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำกร่อยที่เชื่อมต่อกับทะเลน้ำเค็ม สะท้อนปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และมีพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องในแต่ละช่วงเวลา เช่น ระบบการจัดการน้ำแบบดั้งเดิม การถ่ายทอดภูมิปัญญาผ่านการติดต่อค้าขายกับจีนตอนใต้ อิทธิพลการสร้างป้อมค่ายคูเมืองจากยุโรป รวมถึงการเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ผสมผสานระหว่างความเชื่อดั้งเดิมกับศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา
สำหรับแหล่งสงขลาและชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลานั้น มีคุณสมบัติที่เลือกนำเสนอตามเกณฑ์ของมรดกโลก 3 ข้อ ได้แก่ เกณฑ์ข้อ 2 เป็นแหล่งชุมชนที่แสดงถึงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมกับอารยธรรมนานาชาติตามเส้นทางการค้าทางทะเลตลอดเวลานับพันปี เกณฑ์ข้อ 4 เป็นแหล่งที่แสดงพัฒนาการและวิทยาการเดินเรือข้ามภูมิภาคึของการค้าทางทะเลสมัยต่าง ๆ เป็นเมืองท่าที่ดีที่สุดทางตะวันตกของอ่าวไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน และเกณฑ์ข้อที่ 5 เป็นแหล่งภูมิทัศน์วัฒนธรรมของชุมชนริมทะเลสาบสงขลา แสดงวิวัฒนาการการตั้งถิ่นฐานและปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ภูมิปัญญากาจัดกาน้ำและทรัพยากรทางน้ำ การคมนาคมติดต่อค้าขายกับรัฐอื่น ๆ และการปกป้องเมืองจากภัยตามธรรมชาติและทางยุทธศาสตร์