เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 ที่ห้องประชุมเทียน อัชกุล ชั้น 10 กรมการจัดหางาน นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน และ นายวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการดำเนินการรับชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานและเงินหลักประกัน ตอบโจทย์อำนวยความสะดวกนายจ้าง-คนต่างด้าว สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ใช้เวลาจ่ายต่อคนไม่เกิน 1 นาที
นางเพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวภายหลังการลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการดำเนินการรับชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานและเงินหลักประกัน ระหว่างกรมการจัดหางาน กับบริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ว่า กรมการจัดหางานได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 ที่ได้เห็นชอบให้แรงงานต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา กลุ่มที่ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ (ไม่รวมกลุ่มที่นำเข้าตามระบบ MOU) ไปยื่นขออนุญาตเพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว และทำงานต่อไปได้ สามารถดำเนินการในลักษณะนำเข้าตาม MOU โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในส่วนที่จะเกิดขึ้นจากการเดินทางกลับประเทศต้นทาง โดยอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 2 ปี และประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร (ขออยู่ต่อ) ครั้งละไม่เกิน 1 ปี ส่วนการอนุญาตทำงานจะอนุญาตไม่เกิน 2 ปี เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 เพื่อเป็นการลดภาวะการขาดแคลนแรงงาน ส่งเสริมปัจจัยพื้นฐานในภาคการผลิต อันเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับประเทศ ในส่วนของแรงงานต่างด้าวก็จะได้รับการคุ้มครอง มีสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการตามสิทธิที่พึงได้ ทั้งนี้ กรมการจัดหางานได้อำนวยความสะดวกให้กับนายจ้าง สถานประกอบการ และลูกจ้างแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ในด้านการรับชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานและเงินหลักประกันผ่านบริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด จะทำให้สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องเข้าคิวต่อแถวยาว รวมทั้งยังสามารถทำนอกเวลาราชการได้ด้วย โดยมีอัตราค่าบริการ 10 บาท สำหรับการชำระเงินค่าธรรมเนียม 1 รายการ และขอขอบคุณบริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ที่ให้ความร่วมมือกับกรมการจัดหางานในการรับชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานและเงินหลักประกันผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนายจ้าง และแรงงานต่างด้าวทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
“สำหรับขั้นตอนในการดำเนินการ เมื่อนายจ้าง/สถานประกอบการหรือผู้รับอนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศได้รับแบบบัญชีรายชื่อแรงงานต่างด้าว (Name List) จากสำนักงานจัดหางานจังหวัดหรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่รับรองแล้ว ให้ไปยื่นขอตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลและยื่น ขอตรวจลงตราที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว จากนั้น จึงไปยื่นขอชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานและเงินหลักประกัน (กรณีที่นายจ้างไปดำเนินการเอง) ที่จุดให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสได้ทุกแห่งทั่วประเทศ โดยชำระเป็นจำนวนเงิน 1,910 บาท แบ่งเป็น ค่ายื่นคำขออนุญาตทำงาน 100 บาท ค่าธรรมเนียมขออนุญาตทำงาน 2 ปี 1,800 บาท และค่าบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส 10 บาท ต่อแรงงานต่างด้าว 1 คน และสำหรับนายจ้างที่ต้องวางเงินหลักประกันจะต้องชำระเงินอีกจำนวน 1,010 บาท แบ่งเป็น เงินหลักประกัน 1,000 บาทต่อแรงงาน 1 คน และค่าบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส 10 บาท ” นางเพชรรัตน์ฯ กล่าว
ด้าน นายวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า บริษัทเคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ได้พัฒนาระบบและนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพและศักยภาพสูงมาให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในการเปิดบริการรับชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงาน และเงินหลักประกัน สำหรับแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา เพียงใช้เอกสารที่มีแถบบาร์โค้ดมาชำระเงินค่าธรรมเนียม จากนั้นรับสลิป และ SMS เป็นหลักฐานยืนยัน นอกจากนี้ทางบริษัทฯ ยังพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งาน สามารถอำนวยความสะดวกให้กับทุกฝ่าย และลดต้นทุนต่อผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทฯ ได้ร่วมกับกรมการจัดหางานในการรับชำระเงินค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานก่อนแล้วเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2560 ทำให้นายจ้างและแรงงานต่างด้าวได้รับความสะดวกเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการเปิดให้บริการรับชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทำงานและเงินหลักประกันในครั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการในวันที่ 16 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 15 มีนาคม 2563 และในอนาคตจะมีบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเคาน์เตอร์เซอร์วิสแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ด้วยจำนวนจุดให้บริการที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่เปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมงกว่า 12,500 สาขา ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
สำหรับแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ที่จะต้องดำเนินการดังกล่าวมีจำนวนทั้งสิ้น 2,001,379 คน แบ่งเป็น 1. กลุ่มแรงงานประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำ 2. กลุ่มแรงงานที่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติเดิม 3. กลุ่มจัดทำ/ปรับปรุงทะเบียนประวัติ เมื่อปี 2561