วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 นายคุณากร ปรีชาชนะชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นายจิราวัฒน์ อรัณยกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ นำทีมเยี่ยมชมและรับฟังปัญหาผู้ประกอบการ ในช่วงประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ณ จังหวัดสงขลา
นายคุณากร เปิดเผยว่า “วันนี้ผมได้รับมอบหมายจาก นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ลงพื้นที่ภาคใต้ติดตามประเด็นส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ฯ เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์จากยางพารา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถุงมือยางพารา ที่ใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA กว่า 8 ฉบับจากทั้งหมด 14 ฉบับที่ไทยบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน เพื่อส่งออกไปยังตลาดทั่วโลก มีอีกสองฉบับที่ลงนามในความตกลงฯ ไปแล้ว ซึ่งคาดว่าจะบังคับใช้ภายในปี ได้แก่ FTA ไทย-ศรีลังกา และ FTA ไทย- EFTA ซึ่งเป็น FTA ฉบับแรกที่ไทยจัดทำกับประเทศยุโรป ได้แก่ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ นอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ ที่เพิ่งประสบความสำเร็จล่าสุด โดย FTA ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและบริษัทศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)“
นายคุณากร กล่าวว่า ยางพาราและผลิตภัณฑ์จากยางพารา เป็นหนึ่งในสินค้าสำคัญของภาคใต้ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) ได้มีข้อสั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศเร่งรัดการผลักดันการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก FTA เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ FTA เป็นเครื่องมือในการขยายตลาดส่งออกและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของภาคใต้ได้ โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้เห็นว่า การใช้สิทธิประโยชน์ FTA ที่ให้สิทธิลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีศุลกากร ณ ประเทศผู้นำเข้า สำหรับสินค้าที่ไทยส่งออกไปยังต่างประเทศ มีส่วนช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และขยายตลาดในการส่งออกไปยังประเทศต่าง ๆ ได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นความสำคัญของการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจาก FTA ที่จะช่วยสร้างแต้มต่อในการส่งออกให้แก่ผู้ประกอบการ จึงได้ลงพื้นที่ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ดังกล่าว พร้อมทั้งจัดงานสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการส่งออกของภาคใต้ ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ภายใต้โครงการส่งเสริม SMEs ให้แข่งขันได้ในตลาดสากล เรื่อง “FTA ขยายธุรกิจ พิชิตส่งออก” เพื่อส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการส่งออก รวมถึงผู้ประกอบการ SMEs ให้มีองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ และการส่งออก เพื่อจะสามารถใช้ประโยชน์จาก FTA ในการนำเข้าและส่งออกสินค้ากับประเทศที่ไทยมี FTA ได้
นายคุณากร กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ มีภารกิจหลักในด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการ โดยหนึ่งในภารกิจสำคัญ คือ การให้บริการออกหนังสือสำคัญ การส่งออก – นำเข้าสินค้า ซึ่งรวมถึงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin : C/O) ที่ผู้ประกอบการสามารถนำไปใช้สิทธิในการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีศุลกากรตาม FTA ระหว่างไทยกับคู่ภาคี กรมฯ จึงให้ความสำคัญต่อการยกระดับและพัฒนางานบริการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ของผู้ประกอบการ ที่ต้องการได้รับความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อขอรับบริการ และมุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลางและเพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องตามนโยบายรัฐบาลในการมุ่งไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล
“การลงพื้นที่ติดตามประเด็นส่งเสริมการใช้ประโยชน์จาก FTA ในครั้งนี้ เป็นโอกาสให้ได้รับฟังความเห็น และความต้องการจากภาคเอกชนที่ใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA จริง โดยผู้ส่งออกได้เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์เจรจา FTA ฉบับใหม่ ๆ กับประเทศคู่ค้า อาทิ สหภาพยุโรป (EU) เกาหลีใต้ ตุรกี แคนาดา เพื่อขยายโอกาสในการส่งออก เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ประกอบการ ตลอดจนขอให้ส่งเสริมด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า และให้ความรู้แก่ผู้ส่งออกเกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA ในการนำเข้าและส่งออกสินค้า เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้” นายคุณากร ทิ้งท้าย