กสอ. จับมือสถาบันอาหาร แถลงผลสำเร็จ ยกระดับ SMEs ด้วยนวัตกรรม โชว์ 21 ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปต้นแบบ

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) จับมือกับสถาบันอาหาร หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม  แถลงผลสำเร็จ “โครงการยกระดับศักยภาพ SMEs อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูป  ภายใต้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ปีงบประมาณ 2562” เผยบรรลุเป้าหมายทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอาหารแปรรูปให้ SMEs จำนวน 75 กิจการ รวม 123 ราย ทั้งสนับสนุนSMEs จำนวน 21 กิจการ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์อาหารแปรรูปต้นแบบ 21 ผลิตภัณฑ์เพื่อต่อยอดเชิงพาณิชย์ภายในปีนี้ คาดสร้างมูลค่าเพิ่มเฉลี่ยได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15

นายภาสกร ชัยรัตน์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวในพิธีแถลงความสำเร็จ “โครงการยกระดับศักยภาพ SMEs อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปภายใต้กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ปีงบประมาณ 2562” วันที่ 16 กันยายน 2562 ณ ศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย สถาบันอาหาร ว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสถาบันอาหาร หน่วยงานเครือข่ายกระทรวงอุตสาหกรรม ผ่านศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมด้านอาหารแปรรูป (ITC-Mie Thailand Innovation Center) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม(ITC) ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สถาบันอาหาร และจังหวัดมิเอะ ประเทศญี่ปุ่น

การดำเนินงานโครงการนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมอาหารแปรรูปตลอดห่วงโซ่การผลิต เมื่อผู้ประกอบการแปรรูปอาหารซึ่งเป็นอุตสาหกรรมกลางน้ำได้รับการพัฒนาเพิ่มศักยภาพและทักษะการผลิต รวมถึงพัฒนาองค์ความรู้ในการพัฒนาสินค้านวัตกรรมแล้ว ย่อมมีความต้องการวัตถุดิบการผลิตจากภาคการเกษตรซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำมากยิ่งขึ้น ส่วนปลายน้ำของห่วงโซ่ อย่างเช่น ร้านค้าปลีกหรือตัวผู้บริโภคก็มีสินค้าคุณภาพมาตรฐานเป็นทางเลือกมากขึ้นด้วย

“จากทิศทางตลาดโลกที่อาหารแปรรูปมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการควรเตรียม พร้อมในการพัฒนาศักยภาพตนเองด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแปรรูปอาหาร ซึ่งมีส่วนสำคัญในการทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพดีและมีอายุการเก็บรักษาที่เหมาะสม  ต้องทราบกระบวนการและข้อจำกัดของเทคโนโลยี รวมถึงสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับสินค้าแต่ละชนิด ผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยศึกษาข้อมูลแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคและเทคโนโลยีการแปรรูปอาหารในโลกอนาคต จึงจะสามารถฝ่าฟันการแข่งขันในตลาดโลกได้

นางสาวอริยาพร อำนรรฆสรเดช นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการนี้มีระยะเวลาดำเนินงานตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2562 แบ่งเป็น 2 กิจกรรม ได้แก่

กิจกรรมที่ 1 การพัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอาหารแปรรูปสมัยใหม่ให้แก่บุคลากร ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต โดยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตร “เทคนิคการผลิตผลิตภัณฑ์สินค้าภาชนะบรรจุปิดสนิทในสภาวะที่มีความเป็นกรดต่ำและปรับกรด  และเทคนิคการผลิตผลิตภัณฑ์สินค้าอาหารอบแห้ง” แบ่งเป็นภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ มีผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 75 กิจการ จำนวน 123 คน

กิจกรรมที่ 2 การพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ต้นแบบ โดยใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรแปรรูปภายในศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมด้านอาหารแปรรูป (ITC – Mie Thailand Innovation Center) โดยรับสมัครและคัดเลือกผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 21 กิจการ เพื่อพัฒนา 21 ผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากการแปรรูปวัตถุดิบทางการเกษตร ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วและเตรียมต่อยอดเชิงพาณิชย์ภายในปีนี้ ได้แก่ ข้าวเอเนอร์จี้บาร์รสอาหารไทย  O-Pae Snack Bar (ขนมโอแป) กราโนล่า สแนคบาร์(ลิ้นจี่) Lurry(Vegan Cookie) เกรียบแก้ว (มินิมีลแครกเกอร์) ไอศกรีมน้ำนมถั่วเหลือง พุดดิ้งน้ำกะทิทุเรียน ชาดอกมะขาม ไซรัปมัลเบอร์รี่ผสมน้ำผึ้ง  เบอร์รี่พลัสไรซ์(เครื่องดื่มผงเพื่อสุขภาพ) ผงเห็ดหลินจือผสมเสาวรสชงดื่ม  3 สหาย (ผงกระเทียม พริกไทย รากผักชี) ผงผักโรยข้าว ซอสไข่เค็ม น้ำแกงส้มปรุงสำเร็จ  น้ำพริกปลาร้าสับอบแห้ง ไส้กรอกอีสานแช่แข็งพร้อมรับประทาน(สูตรข้าวหอมมะลิทุ่งกุลา) ฮอทดอกปลา(แช่แข็งพร้อมรับประทาน) หมูแผ่นอบกรอบ น้ำยาขนมจีนอบแห้ง และเนื้อหมูหมักสูตรนมสดเสียบไม้แช่แข็ง

 “จากการผลักดันให้ผู้ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์อาหารแปรรูปต้นแบบดังกล่าวประเมินว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ทั้งยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคและสามารถขยายตลาดได้อย่างเข้มแข็งต่อไปในอนาคต”

นางนิตยา พิระภัทรุ่งสุริยา รักษาการผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า สถาบันอาหารได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานเป็นที่ปรึกษาในโครงการดังกล่าว โดยจัดหาวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษา สำหรับให้ความรู้และให้คำแนะนำด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรแก่ผู้เข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงการบริการด้านอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักรแปรรูปสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับองค์ความรู้ผ่านการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมและก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่วัตถุดิบการเกษตรได้สูงสุด

…………………………………………………………………….