“สมศักดิ์” ปลื้มผลงาน อสม. สอนประชาชนนับคาร์บแล้ว 12 ล้านคน คัดกรอง NCDs กว่า 6 ล้านคน จ่อยื่นแผนขับเคลื่อนฯ คนไทยห่างไกล NCDs เป็นวาระแห่งชาติ มีนาคม นี้

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย อสม. ทั่วประเทศออกสอนประชาชนนับคาร์บแล้วกว่า 12 ล้านคน คัดกรอง NCDs กว่า 6 ล้านคน ตั้งเป้าวัน อสม.แห่งชาติ 20 มีนาคม นี้ สอนนับคาร์บได้ 20 ล้านคน คัดกรอง NCDs 10 ล้านคน เตรียมเสนอร่างแผนขับเคลื่อนโครงการคนไทยห่างไกล NCDs เป็นวาระแห่งชาติ เดือนมีนาคมนี้ พร้อมวางแนวทางบริหารจัดการกองทุนเเรงงานต่างด้าว ใช้ระบบศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงิน กระทรวงสาธารณสุข บริหารจัดการเบิกจ่ายระหว่างโรงพยาบาล ยืนยันตัวตนด้วย BIO-ID และปรับราคาบัตรประกันสุขภาพให้เหมาะสม

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 2/2568 ซึ่งมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม โดยมีการรับมอบชุดป้องกันฝุ่นจากสมาคมการค้าและอุตสาหกรรมไทย-จีน จำนวน 3,500 ชุด มูลค่า 1,050,000 บาท เพื่อกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ด้วย

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ได้ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานสำคัญต่างๆ อาทิ อสม.ชวนคนไทยนับคาร์บ ล่าสุด มีผู้เรียนรู้การนับคาร์บแล้ว 12,481,358 คน ได้รับการคัดกรอง NCDs แล้ว 6,197,095 คน ตั้งเป้าหมายว่าภายใน 20 มีนาคม 2568 ซึ่งเป็นวัน อสม.แห่งชาติ จะสอนประชาชนนับคาร์บได้ 20 ล้านคน คัดกรอง NCDs ได้ถึง 10 ล้านคน และเมื่อสิ้นปี 2568 จะส่งเสริมประชาชนนับคาร์บได้ครบ 50 ล้านคน ส่วนการผลักดันการขับเคลื่อนโครงการคนไทยห่างไกล NCDs เป็นวาระแห่งชาติ อยู่ระหว่างการเตรียมประชุมพิจารณา (ร่าง) แผนการขับเคลื่อนฯ ร่วมกับหน่วยงานภายนอกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ นี้ คาดว่าจะนำเสนอแผนฯ ต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้ช่วงเดือนมีนาคม 2568

นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เรื่องการบริหารจัดการกองทุนเเรงงานต่างด้าว ได้มีแนวทางที่จะปรับระบบเบิกจ่าย โดยใช้ระบบศูนย์กลางข้อมูลด้านการเงิน (Financial Data Hub : FDH) กระทรวงสาธารณสุข เป็นระบบบริหารจัดการระหว่างโรงพยาบาล และใช้ระบบ BIO-ID ในการยืนยันตัวตนเข้ารับบริการ รวมถึงพิจารณาปรับเพิ่มราคาบัตรประกันสุขภาพให้เหมาะสม ส่วนการยกระดับการนวดไทย จะมีการปรับหลักสูตรและเพิ่มความเชี่ยวชาญทั้งในกลุ่มอาชีพและกลุ่มวิชาชีพ เพื่อปรับอัตราค่าจ้างในกลุ่มอาชีพจาก 150-200 บาท เป็น 250-300 บาท กลุ่มวิชาชีพ จาก 300-500 บาท เป็น 800-1,000 บาท และพัฒนาบุคลากรเพิ่มเติมในกลุ่มอาชีพ 50,000 คน และกลุ่มวิชาชีพ 20,000 คน สำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ฉีดไปแล้ว 569,686 โดส แบ่งเป็น HPV 9 สายพันธุ์ 91,743 โดส และ HPV 2หรือ 4 สายพันธุ์ 477,943 โดส ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจว่าวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขใช้มีคุณภาพและมีความปลอดภัย