นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศติดตามสถานการณ์การส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นม พบว่า ไทยครองอันดับ 1 การส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของอาเซียน โดยในปี 2567 การส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมไปยังตลาดอาเซียน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11.5 มีมูลค่ารวม 582.62 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี 6 ตลาดสำคัญที่การส่งออกนมขยายตัวโดดเด่น ได้แก่ มาเลเซีย ขยายตัวถึงร้อยละ 64.3 รองลงมา ได้แก่ เวียดนาม ร้อยละ 30.4 อินโดนีเซีย ร้อยละ 27.1 สิงคโปร์ ร้อยละ 20.1 ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 19 และเมียนมา ร้อยละ 14.6
นายสุชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมทุกรายการของไทย ปลอดภาษีนำเข้าในประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นผลจากความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน สินค้านมที่เป็นที่ต้องการของตลาด เช่น โยเกิร์ตและนมเปรี้ยว นมพร้อมดื่มยูเอชที บัตเตอร์มิลค์นมและครีม นมและครีมที่ไม่เข้มข้นและไม่เติมน้ำตาล นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม และนมและครีมที่เข้มข้นและเติมน้ำตาล ซึ่งไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกหลักในปัจจุบันจากสิทธิประโยชน์จาก FTA อาเซียนนี้ ทำให้สินค้านมและผลิตภัณฑ์นมของไทยมีราคาที่แข่งขันได้ อีกทั้งคุณภาพของสินค้าและการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้การส่งออกสินค้านมในตลาดอาเซียนเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต
“ผู้ประกอบการไทยควรใช้สิทธิ FTA เจาะตลาดสินค้านมในอาเซียนให้เพิ่มมากขึ้น โดยเห็นว่า ยังมีโอกาสอีกมาก จากการขยายตัวของชุมชนเมือง การบริโภคเครื่องดื่มประเภทชานม-กาแฟที่เพิ่มขึ้น ในตลาดประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา มาเลเซีย สปป.ลาว ที่ไทยจะได้เปรียบจากระยะทางในการขนส่ง และความนิยมในสินค้าไทย ตลอดจนสิงคโปร์ตลาดศักยภาพที่พึ่งพาการนำเข้าสินค้าอาหารจากต่างประเทศ และฟิลิปปินส์ต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์นมถึงร้อยละ 99 ของความต้องการทั้งหมดจากการขยายตัวของชนชั้นกลางและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความตกลง FTA ของอาเซียนกับคู่ค้าต่างๆ ได้ช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมแปรรูปต่างๆ ไปยังตลาดนอกภูมิภาคอาเซียนด้วย เช่น จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี และฮ่องกง ที่ได้ยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้านมให้แก่ไทยแล้วเช่นกัน จึงขอให้ผู้ประกอบการไทยศึกษาใช้ประโยชน์จาก FTA อย่างเต็มที่และเกาะติดทิศทางแนวโน้มของผู้บริโภคที่ถือเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาสินค้าไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทันสมัย และมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ” นายสุชาติเสริม
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศพิจารณาศักยภาพในการทำ FTA กับตลาดใหม่ๆ ในภูมิภาคแอฟริกาและอเมริกาใต้ โดยในปี 2568 ไทยกำลังเร่งสรุปผลการเจรจา FTA กับเกาหลีใต้ และ FTA อาเซียน-แคนาดา ซึ่งจะช่วยสร้างความได้เปรียบและเป็นแต้มต่อที่ดีให้สินค้านมและผลิตภัณฑ์นมจากไทยให้สามารถเข้าถึงตลาดเหล่านี้ได้ง่ายขึ้น ลดอุปสรรคทางการค้า และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะส่งผลให้ไทยสามารถขยายการส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมได้อย่างยั่งยืนในอนาคต