ทช. ขานรับข้อสั่งการ “สุริยะ” เดินหน้าแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เร่งด่วน พร้อมกำชับโครงการก่อสร้าง ลดปริมาณฝุ่น คุมเข้มมาตรการลดมลพิษในอากาศ ตรวจวัดค่าไอเสียจากเครื่องจักรและยานพาหนะ

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการ ให้หน่วยงานที่มีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมต่าง ๆ เข้าบริหารจัดการพื้นที่ทันที เบื้องต้นให้ผู้รับเหมาฉีดพรมน้ำ ทำความสะอาดล้อรถที่เข้า – ออกพื้นที่ก่อสร้าง กวาดล้างถนนที่เปื้อนดินจากการก่อสร้าง ปิดคลุมวัสดุก่อสร้างในการเก็บกองและขนย้ายให้เรียบร้อย พร้อมจัดการขยะในโครงการก่อสร้างให้มีความเหมาะสม และห้ามเผาบริเวณริมทางและในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง

นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหามลภาวะทางอากาศที่รุนแรงมากขึ้นจากฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5 ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวส่งผลต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน กรมทางหลวงชนบท (ทช.) จึงได้ดำเนินการตามมาตรการลดมลพิษทางอากาศ และรับมือฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ที่กระจายอยู่ปริมาณมาก เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ภายใต้แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

นอกจากนี้ ทช. ได้เล็งเห็นความสำคัญในการช่วยลดมลภาวะและรับมือปัญหาจากฝุ่นละอองดังกล่าว ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ.2568 กรมทางหลวงชนบท และหน่วยงานในสังกัด ได้นำเครื่องจักรกลและยานพาหนะในความดูแลเข้าตรวจวัดค่าควันไอเสีย กับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ตามแผนปฏิบัติการตรวจวัดมลพิษทางอากาศ เพื่อเป็นการควบคุมและลดมลพิษทางอากาศ ตามมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ของ ทช. ปัจจุบันมีรถนำเข้าตรวจค่าควันไอเสีย และผ่านเกณฑ์ทั้งหมด จำนวน 989 คัน โดยมาตรการดังกล่าว เป็นการดำเนินการตรวจสภาพและบำรุงรักษาเครื่องจักรกลและยานพาหนะให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ พร้อมใช้งานเป็นประจำทุกเดือน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดมลพิษทางอากาศ และแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในส่วนของมาตรการที่รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เน้นย้ำเป็นพิเศษคือการลดฝุ่นในโครงการก่อสร้าง ทช. ในส่วนของสำนักเครื่องกลและสื่อสาร กรมทางหลวงชนบท ได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยติดตามการดำเนินงานทุกหน่วยงานในสังกัดกรมทางหลวงชนบทดำเนินการเพื่อลดหมอกควัน PM2.5 ซึ่งสำนักเครื่องกลและสื่อสาร จะดำเนินการติดตามอย่างเข้มข้นใน 5 ส่วน ได้แก่

1. ตรวจควันดำเครื่องจักรกลและยานพาหนะ หากพบว่าควันดำจะให้หยุดใช้เป็นเวลา 30 วันเพื่อปรับปรุงแก้ไข
2. การเร่งตัดหญ้าข้างทางซึ่งเป็นเชื้อไฟไม่ให้เป็นจุดกำเนิดของไฟป่า
3. การลดฝุ่นในโครงการก่อสร้างที่อยู่ใกล้แหล่งชุมชน จะเน้นย้ำให้ผู้ควบคุมงานกำชับผู้รับจ้างให้ดำเนินการลดฝุ่น โดยการกวาดและพ่นไอน้ำ
4. การให้การสนับสนุนจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ในการดับไฟบริเวณ 2 ข้างทางในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบททันทีที่ได้รับแจ้งหรือร้องขอ
5. มาตรการอื่น ๆ อาทิ การรณรงค์ลดการเผาป่า 2 ข้างทาง การฉีดพ่นไอน้ำลดหมอกควันในบริเวณแหล่งชุมชน

โดยที่กล่าวมาทั้ง 5 ส่วน ข้างต้น สำนักเครื่องกลและสื่อสาร จะทำการติดตามรายงานผลจากพื้นที่ผ่านการรายงานทางวิทยุศูนย์วิษณุ เวลา 09.00 น. ในพื้นที่ที่มี PM2.5 สูงกว่า 100 มคก./ลบม. ทุกวัน จนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดเพื่อรายงานผลให้ผู้บริหารได้รับทราบ ทั้งนี้ หากเครื่องจักรหรือยานพาหนะใดที่มีค่าควันไอเสียเกินกว่าค่าที่กำหนด ให้หยุดใช้งานทันทีและดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรการของ ทช. จึงจะสามารถนำกลับมาใช้งานได้ตามปกติ พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลการดำเนินงานของหน่วยงานในแต่ละพื้นที่ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อสรุปสำหรับการปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่อไป