นางสาวเอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ร่วมกับ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ( กยศ.) กรมบังคับคดี และสถาบันการเงินต่างๆ จัดงานมหกรรมแก้หนี้สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ปีที่ 2 ซึ่งได้เดินหน้าจัดงานมาตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2567 เป็นต้นมา โดยวันที่ 29-31มกราคม 2568 นี้ กำหนดจัดงานที่ หอประชุมกาสะลองคำ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จึงขอเชิญชวนผู้กู้ยืม กยศ. พื้นที่จังหวัดเชียงรายและใกล้เคียง ลงทะเบียนเข้าร่วมงานเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
นางสาวเอมอรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานมหกรรมแก้หนี้สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดย ปี 2568 ได้กำหนดจัดงานครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งระหว่างวันที่ 29-31 มกราคม 2568 ที่จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะกลุ่มผู้กู้ยืม กยศ. ทั้งกลุ่มที่ชำระหนี้ปกติที่มีความสนใจปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ลดภาระการผ่อนชำระให้น้อยลง และปลดผู้ค้ำประกัน รวมทั้งกลุ่มลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระหรือกลุ่มถูกฟ้องบังคับคดี ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ทำสัญญาใหม่ จะไม่ถูกฟ้องคดี ปลดผู้ค้ำประกัน โดยลูกหนี้ที่มาทำสัญญาใหม่ จะได้รับสิทธิประโยชน์เช่นได้รับอัตราดอกเบี้ย 1% และลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5 % หากชำระเสร็จตามสัญญาลดเบี้ยปรับ 100% และปลดภาระผู้ค้ำประกัน ทุกราย โดยเป้าหมายในปีนี้ ต้องการปลดผู้ค้ำประกันให้ได้มากที่สุด
ด้านนายธีรยุทธ แก้วสิงห์ รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ในฐานะโฆษกกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เปิดเผยว่า จากการประสานงานและร่วมมือทำงานกับ กยศ. ตลอดมานั้น ทราบว่า ล่าสุด กยศ. ได้ดำเนินการคำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ของผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนเสร็จแล้ว โดยนำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมแต่ละรายที่ได้ชำระเงินคืนนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณหนี้ใหม่ โดยเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ เป็นตัดชำระเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ ซึ่งนับเป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้กู้ยืม ดังนั้น จึงเป็นผลให้ผู้กู้ยืมบางรายไม่มียอดหนี้คงเหลือ แต่หากยังมียอดหนี้คงเหลือจะต้องชำระหนี้ต่อไป และหากมีเงินส่วนเกินจากยอดหนี้ที่คำนวณใหม่ ผู้กู้ยืมมีสิทธิขอรับเงินคืนได้ โดย กยศ. ได้ดำเนินการส่ง SMS แจ้งให้ผู้กู้ยืมทุกรายได้รับทราบแล้ว และเมื่อผู้กู้ยืมเข้าระบบตรวจสอบสถานะบัญชีผู้กู้ยืมที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th แล้ว หากมีสิทธิได้รับเงินคืนจะสามารถลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ โดย กยศ. จะคืนเงินส่วนเกินผ่านระบบโอนเงินแบบพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีธนาคารของผู้กู้ยืมเท่านั้น ซึ่งตนอยากให้ผู้กู้ยืม กยศ.ทุกราย เข้าไปตรวจสอบสิทธิของท่านที่จะได้รับเงินคืนจาก กยศ.
โฆษกกรมคุ้มครองสิทธิฯ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้กู้ยืมที่ยังมียอดหนี้คงเหลือ ขอเชิญชวนให้มาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อขยายเวลาผ่อนชำระซึ่งจะทำให้การผ่อนชำระหนี้ต่อเดือนน้อยลง และเป็นการปลดภาระผู้ค้ำประกัน โดยจะใช้ยอดหนี้ที่ได้คำนวณใหม่นี้เพื่อทำสัญญาให้แก่ผู้กู้ยืมในการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ และเมื่อระบบ กยศ.Connect ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้วยอดหนี้ทั้งหมดจะถูกปรับโดยอัตโนมัติ ซึ่งทราบว่าขณะนี้ กยศ.กำลังเร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว สำหรับลูกหนี้ กยศ. ในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ทุกภูมิภาค หากท่าน มีความสนใจปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ สามารถตรวจสอบกำหนดการจัดงานและลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ทาง เว็บไซต์ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ www.rlpd.go.th หรือ เว็บไซต์ของ กยศ. www.studentloan.or.th หรือ เว็บไซต์ของกรมบังคดี