กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เตรียมจับมือ สำนักงาน ปปง. – กรมส่งเสริมสหกรณ์ ประสานความร่วมมือ ยกระดับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินผ่านกิจการสหกรณ์

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เตรียมลงนามร่วมกันในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินผ่านกิจการสหกรณ์ เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง ยกระดับความโปร่งใสและความมั่นคงในระบบสหกรณ์ โดยเรียนเชิญ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธี และร่วมเป็นสักขีพยาน ในวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2568 ณ ห้องประชุม 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรุงเทพฯ

อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า จากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) ที่มอบนโยบายให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานหลักในการตรวจสอบบัญชีและกำกับดูแลด้านการเงินการบัญชี ขับคลื่อนภารกิจเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและความโปร่งใสในระบบสหกรณ์ด้วยมาตรฐานและนวัตกรรมที่ทันสมัย ท่ามกลางสถานการณ์ที่พบว่าสหกรณ์ยังคงมีปัญหาทุจริต โดยเฉพาะในด้านการเงิน การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย จึงเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้บูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการประสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินผ่านกิจการสหกรณ์ ตั้งแต่ปี 2558 โดยขับเคลื่อนการดำเนินงาน และให้ความร่วมมือระหว่างกันตลอดมา อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันสหกรณ์เริ่มมีการทุจริตที่มีกระบวนการซับซ้อน และมีการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการตกแต่ง ปลอมแปลง รวมทั้งมีรูปแบบในการกระทำการทุจริตที่หลากหลาย ดังนั้น 3 หน่วยงาน จึงร่วมกันปรับปรุง MOU ฉบับปี 2558 ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเสี่ยงในปัจจุบัน และยกระดับให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล พร้อมทั้งยกระดับการเผยแพร่ความรู้ในรูปแบบที่ทันสมัย เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ภาคประชาชนและสมาชิกสหกรณ์ ตลอดจนบุคลากรภาครัฐที่ทำหน้าที่กำกับดูแล ซึ่งเป็นการบูรณาการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ

สำหรับการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จะยกระดับความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินผ่านกิจการสหกรณ์ โดยการดำเนินการครอบคลุมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่สำคัญต่อการปฏิบัติงาน การพัฒนาศักยภาพบุคลากร การสนับสนุนด้านทรัพยากรและการสร้างกลไกการตรวจสอบที่เข้มแข็งภายใต้กรอบกฎหมาย โดยในส่วนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์และกรมส่งเสริมสหกรณ์ จะดำเนินการตรวจสอบสหกรณ์ตามอำนาจหน้าที่ หากพบว่า อาจมีการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายจะแจ้งสำนักงาน ปปง. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป นอกจากนี้ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยังให้ความร่วมมือในการให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติด้านการเงินการบัญชีของสหกรณ์ รวมทั้งการสร้างเครือข่ายการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้กิจการสหกรณ์ ถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดทางการเงิน เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการเงินการบัญชีแก่สหกรณ์และแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างเป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ ให้มีความมั่นคง เข้มแข็ง และดำรงประโยชน์แก่มวลสมาชิก