รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ห่วงสุขภาพคนไทยจากฝุ่น PM 2.5 ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ออกมาตรการในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่น พร้อมเสนอครม.ใช้ในพื้นที่ควบคุมโรค และเห็นชอบมาตรการดูแลสุขภาพประชาชน โดยให้จังหวัด สนับสนุนหน้ากากป้องกันฝุ่นแก่กลุ่มเปราะบาง ออกประกาศ Work from home ตั้งศูนย์พักคอยกลุ่มเปราะบาง และผู้มีโรคประจำตัว รวมทั้งขอความร่วมมือเกษตรกร เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการขนส่ง ช่วยลดฝุ่น ส่วนโรงพยาบาล ให้จัดทำห้องปลอดฝุ่นสำหรับกลุ่มเปราะบาง และแจ้งเมื่อพบผู้สงสัยป่วยจากฝุ่น
วันที่ 22 มกราคม 2368 ที่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1/2568 โดยมี นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม และกล่าวว่า ในการประชุมครั้งแรกของปี 2568 วันนี้ มีประเด็นสำคัญเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีค่าเกินมาตรฐานจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ในหลายพื้นที่ โดยมีการกำหนดแนวทางปฏิบัติในการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคหรืออาการที่เกิดจากการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ด้วยการประกาศเขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวัง การป้องกัน และการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมตามมาตรา 14 (2) ซึ่งเป็นการเสนอเขตพื้นที่ที่ต้องมีการเฝ้าระวังการป้องกันและการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมเป็นการเฉพาะต่อคณะรัฐมนตรี และตามมาตรา 35 ซึ่งให้อธิบดีกรมควบคุมโรคหรือผู้ซึ่งอธิบดีกรมควบคุมโรคมอบหมาย โดยคำแนะนำของคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร มีอำนาจประกาศเขตพื้นที่ รวมทั้งประกาศยกเลิกเมื่อมีเหตุอันสมควรหรือสภาวการณ์ของโรคนั้นสงบลง โดยจะกำหนดเป็นเขตพื้นที่ควบคุมโรค เมื่อจังหวัด มีค่าเฉลี่ยปริมาณฝุ่น PM2.5 ในรอบ 24 ชม. มากกว่า 75 มคก./ลบ.ม. ระยะเวลาหนึ่ง และยกเลิกเมื่อค่า PM2.5 น้อยกว่า 37.5 มคก./ลบ.ม. ติดต่อกัน 7 วัน ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขมีข้อแนะนำว่าเมื่อค่าฝุ่น เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม. ก็ควรยกระดับมาตรการเฝ้าระวังสุขภาพอย่างเข้มข้น
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมีการประกาศเป็นเขตพื้นที่เสี่ยงแล้ว ควรมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น ดังนี้ 1) สนับสนุนหน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โดยพิจารณาชนิดหน้ากากตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ 2)ออกประกาศ Work from home / ทำงานผ่านระบบออนไลน์ และงดทำกิจกรรมกลางแจ้ง 3) จัดทำศูนย์พักคอยกลุ่มเปราะบาง และผู้มีโรคประจำตัว 4) ขอความร่วมมือเกษตรกร เจ้าของสถานประกอบกิจการ และผู้ประกอบการขนส่ง ดำเนินการลดฝุ่น ในส่วนของโรงพยาบาล ให้จัดทำห้องปลอดฝุ่นสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น ห้องเด็กแรกคลอด ห้องพักหลังคลอด เป็นต้น และแจ้งการพบผู้ป่วยโรคจากฝุ่น PM2.5 และให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม ใช้กลไกทางกฎหมาย ในการแจ้ง รายงาน และสอบสวนโรคจากฝุ่น PM2.5