พาณิชย์ ลงพื้นที่แหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังต่อเนื่อง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เข้าสู่ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวมันสำปะหลัง ซึ่งเกษตรกรจะนำผลผลิตออกมาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องปรามไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสกดราคารับซื้อ เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมจากการขายผลผลิตทางการเกษตร ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) ที่สั่งการให้กรมการค้าภายในกำกับดูแลราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะ มันสำปะหลังให้มีเสถียรภาพ เพื่อการยกระดับรายได้ให้กับเกษตรกร จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และนายตรวจชั่งตวงวัด ปูพรมตรวจสอบผู้ประกอบการรับซื้อมันสำปะหลังทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบตามจังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลังสำคัญ เช่น นครราชสีมา สระแก้ว สุรินทร์ และอุบลราชธานี อย่างต่อเนื่องไปแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 14 – 15 มกราคม 2568 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และนายตรวจชั่งตวงวัด ตรวจสอบสถานการณ์การรับซื้อมันสำปะหลังของผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรและพิษณุโลก พบว่า ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีการแสดงราคารับซื้อที่ชัดเจนและเปิดเผย ใช้เครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งที่เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการค้าภายในกำหนด โดยราคารับซื้อหัวมันสดเปอร์เซนต์เชื้อแป้ง 25% ราคา 1.95 – 2.05 บาท/กก.

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝากถึงเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ขอให้เก็บเกี่ยวผลผลิตที่ครบอายุเพื่อให้ได้คุณภาพและได้รับราคาที่สูงขึ้น พร้อมทั้งได้สั่งการพาณิชย์จังหวัดที่เป็นแหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลัง ให้ติดตามสถานการณ์การซื้อขายมันสำปะหลังอย่างใกล้ชิด รวมทั้งกำกับดูแลการรับซื้อให้มีความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ทั้งด้านคุณภาพและราคา และขอเตือนให้ผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่แสดงราคารับซื้อตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อหรือมีการคิดค่าชั่งน้ำหนักสินค้าเกษตรที่รับซื้อ หรือลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กรณีใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองหรือคำรับรองสิ้นอายุในการซื้อขายสินค้า ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีโกงเครื่องชั่งหรือใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการดัดแปลงแก้ไข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายหัวมันสำปะหลังสดหรือพบเห็นการไม่ปฎิบัติตามกฎหมาย เช่น ไม่แสดงราคารับซื้อ และไม่วัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้ง สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ