สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 9 ม.ค. 68 เวลา 7.00 น.

1. สภาพอากาศวันนี้ : บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วนภาคกลางกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบนยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง

คาดการณ์ : ในวันที่ 10-14 ม.ค. 68 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 77% ของความจุเก็บกัก (61,822 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 65% (37,874 ล้าน ลบ.ม.)
เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุดหรือมีน้ำใช้การน้อยกว่า 30% 3 แห่ง ดังนี้
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จุฬาภรณ์ สิรินธร และลำตะคอง

3. คุณภาพน้ำ : แม่น้ำสายหลัก 4 สาย (เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และบางปะกง) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

4. แผนและผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง : สทนช. ติดตามผลการจัดสรรน้ำฤดูแล้งปี 2567/2568 ของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 35 แห่ง ณ วันที่ 8 ม.ค. 68
สรุปได้ดังนี้
4.1 ทั้งประเทศ มีปริมาณน้ำใช้การ 32,033 ล้าน ลบ.ม. (68%)
ผลการจัดสรรน้ำทั้งฤดู (ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 67 ถึงปัจจุบัน) สะสม 6,379 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 29% (แผนฯ ทั้งฤดู 21,626 ล้าน ลบ.ม.)
4.2 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำใช้การ 13,103 ล้าน ลบ.ม. (72%)
ผลการจัดสรรน้ำทั้งฤดู สะสม 3,164 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 35% (แผนฯ ทั้งฤดู 8,500 ล้าน ลบ.ม.)
4.3 พื้นที่ EEC (อ่างฯ บางพระ หนองปลาไหล และประแสร์) มีปริมาณน้ำใช้การ 438 ล้าน ลบ.ม. (83%)
ผลการจัดสรรน้ำทั้งฤดู สะสม 169 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 22% (แผนฯ ทั้งฤดู 455 ล้าน ลบ.ม.)

ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานจัดสรรน้ำให้เป็นไปตามแผนเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ให้เพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งนี้

5. การเตรียมการรับมือ : เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย โดยเปิดเผยว่าสถิติปี 2567 ประเทศไทยเผชิญเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยรวม 1,112 ครั้ง แบ่งเป็นแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก 160 ครั้ง แผ่นดินไหว 947 ครั้ง และหลุมยุบ 5 ครั้ง โดยพื้นที่เสี่ยงครอบคลุม 54 จังหวัด รวมกว่า 142,067 ตารางกิโลเมตร หรือ 25% ของพื้นที่ประเทศ สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 กรมทรัพยากรธรณีจะเร่งติดตั้งเครื่องตรวจติดตามการเคลื่อนตัวของมวลดินเพิ่มอีก 140 สถานี จากเป้าหมาย 600 สถานีทั่วประเทศ โดยเน้นพื้นที่เสี่ยงธรณีพิบัติภัยแผ่นดินถล่ม ในภาคเหนือ ภาคตะวันตกและภาคใต้ พร้อมเสริมสร้างขีดความสามารถในการรับมือและลดความเสี่ยงจากธรณีพิบัติภัยแก่ชุมชนอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาระบบเฝ้าระวังและแบบจำลองเตือนภัย ทั้งนี้ เน้นย้ำให้ติดตามเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยระดับประเทศ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับชุมชนและเครือข่ายท้องถิ่น เพื่อให้การแจ้งเตือนภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน