กระทรวงพลังงานรับลูก “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” คณะทำงานฯเตรียมหารือสิทธิส่วนลดค่าก๊าซหุงต้มให้กับกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานได้มีการตั้งคณะทำงาน ขึ้นมาเพื่อพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือราคาขายปลีก LPG ภาคครัวเรือน เฉพาะกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร เพื่อให้ผู้ใช้ก๊าซหุงต้มกลุ่มนี้ได้เข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือไม่เกิดความซ้ำซ้อนกับความช่วยเหลือจากโครงการเดิมของกระทรวงฯที่มีอยู่ และเป็นการช่วยเหลือได้ตรงจุดตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ปัจจุบัน นโยบายการจัดประชารัฐสวัสดิการ โดยให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้านพลังงาน ซึ่งผู้มีรายได้น้อยที่อยู่ในฐานข้อมูลระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับวงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ใช้ 1 ครั้งต่อ 3 เดือน) ซึ่งเริ่มใช้ส่วนลดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้นมา
ส่วนภาคครัวเรือนที่เป็นกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ซึ่งยังไม่ได้เข้าระบบบัตรสวัสดิการฯ แต่ยังคงได้รับความช่วยเหลือผ่านโครงการบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน ที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ให้ความช่วยเหลืออยู่ โดยเกณฑ์ช่วยเหลือร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร คือปริมาณใช้ก๊าซหุงต้มสูงสุดไม่เกิน 75 กก.ต่อเดือน ปตท.ช่วยเหลืออัตรา 2.50 บาทต่อกก. ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2562 ได้มีมติให้ ธพ. ขอความร่วมมือจาก ปตท.ขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่จะสิ้นสุดระยะให้ความช่วยเหลือ (31 ก.ค.2562) ออกไปอีก 2 เดือน (ส.ค. – ก.ย. 2562) และขอขยายกรอบวงเงินสำหรับมาตรการนี้อีก 60 ล้านบาท โดยให้ ปตท. รับภาระในการตรึงราคาปัจจุบันเอาไว้ก่อน เพื่อให้กระทรวงพลังงานได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ของกระทรวงการคลัง ตามนโยบายรัฐบาล
“สำหรับเรื่องส่วนลดความช่วยเหลือค่าแก๊สของกลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหารที่มีการนำเสนอข่าวออกมาว่าจะช่วยเหลือจำนวน 38 บาทต่อถังขนาด 15 กก.นั้น ยังเป็นตัวเลขที่คลาดเคลื่อน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่คณะทำงานซึ่งมีผู้แทนหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กรมธุรกิจพลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงการคลัง กรมการค้าภายในร่วมหารือในความเหมาะสม ซึ่งจะเร่งพิจารณาเพื่อสรุปนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนำหารือกระทรวงการคลัง เพื่อเตรียมอนุมัตินำมาใช้ในทางปฏิบัติให้ได้ทันวันที่ 1 ต.ค.2562” ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวในท้ายที่สุด