นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงถึงเป้าหมายสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาในปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” โดยตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกว่า 3.5 ล้านล้านบาท พร้อมผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและกีฬาระดับโลกอย่างยั่งยืน
รัฐมนตรีฯ ระบุว่า การท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยแบรนด์ “Amazing Thailand” ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมายาวนานกว่า 30 ปี อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ยังคงต้องปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลง เช่น การเดินทางด้วยตัวเองและการท่องเที่ยวแบบครอบครัว รวมถึงการเติบโตของที่พักแบบโฮมสเตย์และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ยังอยู่นอกระบบ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ กระทรวงฯ กำลังเร่งปรับโครงสร้างกฎหมาย พร้อมส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างถูกต้องและได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ
ผลสำเร็จของการท่องเที่ยวในปี 2567 :
นายสรวงศ์เปิดเผยว่า ในปี 2567 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 22 ธันวาคม ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยกว่า 34,378,323 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,616,634 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (6,581,141 คน) มาเลเซีย (4,800,185 คน) อินเดีย (2,061,303 คน) เกาหลีใต้ (1,815,170 คน) และรัสเซีย (1,659,686 คน) ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวไทยในปี 2567 คาดว่าจะมีจำนวน 193.47 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวไทยแล้วประมาณ 931,876 ล้านบาท
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.75 และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2567 ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามากว่า 8 แสนคนต่อสัปดาห์ โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.28 จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวทุกกลุ่มตลาด โดยเฉพาะกลุ่มตลาดหลัก อาทิ สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และเยอรมนี นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.04 จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดหลักเช่นกัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาแตะระดับ 1 แสนคนครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวจากเหตุอุทกภัย ในอำเภอหาดใหญ่ และภาคใต้ตอนล่าง ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 886,472 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 113,919 คน หรือร้อยละ 14.75 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 126,639 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (131,744 คน) มาเลเซีย (119,849 คน) รัสเซีย (56,591 คน) อินเดีย (52,260 คน) และเกาหลีใต้ (47,670 คน) โดยนักท่องเที่ยวมาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และจีน มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 27.43 ร้อยละ9.34 ร้อยละ 9.06 ร้อยละ 8.15 และร้อยละ 6.50 ตามลำดับ
ความสำเร็จนี้เป็นผลจากนโยบาย Ease of Traveling ที่รัฐบาลและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการ เช่น มาตรการ Visa-Free สำหรับ 90 ประเทศ การขยายเวลาพำนักจาก 30 วันเป็น 60 วัน และการพัฒนาระบบขอวีซ่าออนไลน์ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มธุรกิจ (MICE) ไปจนถึงกลุ่มชาวต่างชาติที่ทำงานทางไกล (Digital Nomad)
กระทรวงฯ ยังได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล เช่น โครงการ Amazing Thailand 365 วัน มหัศจรรย์เมืองน่าเที่ยว ซึ่งเน้นกระจายรายได้ไปสู่เมืองรอง และเทศกาลฤดูหนาว “7 Wonders of Thailand” ที่มุ่งสร้างกระแสเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรม เช่น เทศกาลลอยกระทง เทศกาลอาหารพื้นบ้าน และมหกรรมดนตรีระดับโลก
การพัฒนากีฬาและเป้าหมายซีเกมส์ 2568 :
สำหรับด้านกีฬา ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์ปี 2568 ใน 3 จังหวัด คือ กรุงเทพ ชลบุรี และสงขลา โดยมุ่งเน้นจัดงานในรูปแบบ “กรีนซีเกมส์” ซึ่งเป็นซีเกมส์ที่เน้นความยั่งยืน ลดการปล่อยคาร์บอน และแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
นายสรวงศ์เผยว่า กระทรวงฯ ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยกว่า 90 แห่ง เพื่อสำรวจความต้องการและวางแผนพัฒนากีฬาในทุกระดับ ตั้งแต่การจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ การสร้างโอกาสให้กับเยาวชนผู้มีความสามารถ แต่ขาดแคลนทรัพยากร ไปจนถึงการพัฒนากีฬาสู่ระดับนานาชาติ
การพัฒนากีฬาในประเทศไทยยังมุ่งเน้นสร้าง Soft Power ใหม่ โดยเฉพาะการส่งเสริมมวยไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก กระทรวงฯ ได้ดำเนินการจัดการแข่งขันมวยไทยและการฝึกอบรมผู้ฝึกสอนทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมผลักดันให้มวยไทยเป็นกีฬาที่สร้างเศรษฐกิจและชื่อเสียงให้กับประเทศ
ประเทศไทยพร้อมก้าวสู่ความยั่งยืน :
นายสรวงศ์ชี้ว่า ความสำเร็จที่ผ่านมาเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ตั้งแต่หน่วยงานภาครัฐจนถึงชุมชนท้องถิ่น กระทรวงฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาที่ยั่งยืน อาทิ การยกระดับระบบสายด่วน 1155 สำหรับนักท่องเที่ยว การใช้เทคโนโลยี AI ในการตรวจสอบความปลอดภัย และการพัฒนามาตรฐานการจัดการแหล่งท่องเที่ยว
“ประเทศไทยมีทรัพยากรที่ยอดเยี่ยม มีคนที่พร้อม และสถานที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพระดับโลก ผมเชื่อมั่นว่าพวกเราทุกคนสามารถร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” นายสรวงศ์กล่าวปิดท้าย