‘พิพัฒน์’ พบทูตไทย อาสาสมัครแรงงาน ณ กรุงโตเกียว หารือเพิ่มการจ้างงานคนไทยในญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 เวลา 11.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เรือเอก สาโรจน์ คมคาย อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และผู้บริหารกระทรวงแรงงานเข้าพบหารือข้อราชการ กับนายวิชชุ เวชชาชีวะ เอกอัครราชทูต และร่วมมอบประกาศเกียรติคุณฯ แก่อาสาสมัครแรงงานดีเด่น ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีภารกิจหลักหนึ่งในการส่งเสริมการมีงานทำ รวมถึงขยายตลาดแรงงานในต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยมีโอกาสมีงานทำในต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีรายได้ที่เหมาะสม ในวันนี้ได้มาพบท่านเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เพื่อหารือแลกเปลี่ยนนโยบายกระทรวงแรงงาน ได้แก่ การเป็นส่วนหนึ่งและให้การสนับสนุนทีมประเทศไทย การขยายตลาดแรงงานไทยในประเทศญี่ปุ่นเชิงรุก การจัดงาน MOL Overseas Matching ที่สถานทูตฯ ให้องค์กรผู้ส่งไทย พบ องค์กรผู้รับญี่ปุ่น รวมทั้งได้หารือร่วมกันการจัดทดสอบมาตราฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ พร้อมกับการจัดอบรมวิชาชีพให้กับแรงงานไทยในประเทศญี่ปุ่น อย่างเช่น นวดไทย มวยไทย หรือ งานบริบาล เพื่อในการป้องกันให้งานเอกลักษณ์เฉพาะทางนี้เป็นของแรงงานไทย และจะทำให้สามารถขยายฐานการทำงานของแรงงานไทยได้

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า มีอาสาสมัครแรงงานในต่างประเทศญี่ปุ่น ที่สนับสนุนการทำงานของสำนักงานแรงงาน ซึ่งวันนี้ทางกระทรวงแรงงาน มีการจัดพิธีมอบประกาศเกียรติคุณและเข็มเชิดชูเกียรติแก่อาสาสมัครแรงงานดีเด่น 2567 โดยขอแสดงความยินดีกับคุณมาลี วาดะ ที่ได้รับรางวัลในปีนี้ พร้อมได้ให้เวลารับฟังปัญหาต่างๆ และความต้องการของอาสาสมัครแรงงาน ที่สะท้อนการชีวิตในการดูแรงงานไทยในประเทศญี่ปุ่น

“ขณะนี้แรงงานไทยทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ประมาณกว่า 35,000 คน ได้รับค่าแรงเริ่มต้นประมาณ 9,000 เยน ( กว่า 2,000 บาท) ต่อวัน ซึ่งมีความความต้องการให้กระทรวงแรงงานพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อรองรับตลาดแรงงานได้มากขึ้น มีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งงานนวดไทย และงานในอุตสาหกรรมอาหาร งานบริบาลผู้สูงอายุ ที่ยังขาดแคลนสามารถรับแรงงานต่างชาติได้อีกหลายอัตรา รวมทั้งขอให้มีการอบรมด้านภาษาญี่ปุ่นพื้นฐาน เพราะเป็นสิ่งจำเป็นในการทำงานอาสาสมัครแรงงานที่ประเทศญี่ปุ่น” นายพิพัฒน์ กล่าวเสริม