กรมประมงเดินหน้าสร้างความมั่นคงทางอาหาร เร่งเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำมูลค่าสูงในลุ่มน้ำตาปี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต พลิกฟื้นเศรษฐกิจ จ.สุราษฎร์ธานี

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม 2567 เวลา 11.00 น. ณ วัดท่าอู่ ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี กรมประมงจัดงานปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำมูลค่าสูงในแหล่งน้ำธรรมชาติลุ่มน้ำตาปี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งเป้าปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเศรษฐกิจมูลค่าสูงรวมกว่า 10 ล้านตัว ทั้งพื้นที่น้ำจืดและชายฝั่ง เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร เพิ่มรายได้ให้กับชาวประมงและประชาชนในพื้นที่ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายอัครา พรหมเผ่า) โดยมีนางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงานฯ

 

นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า “ลุ่มน้ำตาปี” เป็นลุ่มน้ำสำคัญของจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่เกิดจากแม่น้ำลำคลองหลายสายไหลมาบรรจบกัน และเชื่อมลงสู่ทะเลอ่าวไทยบริเวณอ่าวบ้านดอน ทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำในบริเวณนี้มีความหลากหลายและมีความอุดมสมบูรณ์มาก แต่ปัจจุบันมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นของประชากร ประกอบกับกระแสความนิยมในการบริโภคสัตว์น้ำเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำในธรรมชาติลดลงอย่างรวดเร็ว กรมประมงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำในลุ่มน้ำตาปีให้กลับมาคงความอุดมสมบูรณ์ดังเดิม จึงดำเนินโครงการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำมูลค่าสูงในแหล่งน้ำธรรมชาติลุ่มน้ำตาปี อ่าวบ้านดอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีเป้าหมายปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำโดยเฉพาะชนิดพันธุ์ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ มีมูลค่าสูง และเป็นที่นิยมของผู้บริโภคอย่างกุ้งก้ามกราม หรือกุ้งแม่น้ำ และกุ้งทะเล จำนวนกว่า 10 ล้านตัว ลงในพื้นที่น้ำจืดและพื้นที่ชายฝั่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานีทั้งหมด 14 จุด เพื่อปลูกจิตสำนึกในการฟื้นฟู อนุรักษ์ และบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ก่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหาร สร้างรายได้ให้กับชาวประมงและประชาชนในพื้นที่ สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตชาวประมงให้อยู่ดี กินดี มีรายได้อย่างยั่งยืน

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ มีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำจำนวน 600,000 ตัว เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรประมงในลุ่มน้ำตาปี ประกอบด้วย กุ้งก้ามกราม 500,000 ตัว และปลากินพืช (ปลากาดำ ปลาสุลต่าน และปลาตะเพียนทอง) 100,000 ตัว มอบพันธุ์กุ้งก้ามกราม จำนวน 4,500,000 ตัว ให้กับผู้นำชุมชน 20 ชุมชน จากคลองอิปัน แม่น้ำตาปี และแม่น้ำพุมดวง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับคนในชุมชนนำไปปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ พร้อมมอบเงินสนับสนุนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น จำนวน 4 องค์กร ๆ ละ 100,000 บาท

อธิบดีฯ กล่าวในตอนท้ายว่า หลังจากการจัดกิจกรรมในวันนี้ จะมีการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำมูลค่าสูง เช่น กุ้งก้ามกรามกุ้งทะเล รวมกว่า 5 ล้านตัว ในแหล่งน้ำเป้าหมายอีก 14 จุด ประกอบด้วย 1. พื้นที่น้ำจืด จำนวน 7 จุด ได้แก่ บริเวณคลองอิปัน ตำบลพระแสง อำเภอพระแสง, บริเวณแม่น้ำตาปี ในพื้นที่อำเภอเมือง บ้านนาสาร เคียนซา และพุนพิน, แม่น้ำพุมดวง บริเวณอำเภอบ้านตาขุน และคีรีรัฐนิคม และ 2. พื้นที่ชายฝั่ง จำนวน 7 จุด ได้แก่ บริเวณอำเภอเมือง ดอนสัก ไชยา กาญจนดิษฐ์ พุนพิน ท่าฉาง และท่าชนะ เพื่อเพิ่มปริมาณทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่สำคัญให้กับประชาชนในพื้นที่ ภายใต้การบริหารจัดการทรัพยากรให้เกิดความยั่งยืนด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชน