1.สภาพอากาศวันนี้ : สภาพอากาศวันนี้ : ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตก ในขณะที่มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคใต้ตอนล่างมีแนวโน้มจะเคลื่อนลงสู่ทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ กับมีฝนตกหนักมากบางแห่ง
คาดการณ์ : ในช่วงวันที่ 14-15 ธ.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างเคลื่อนผ่านอ่าวไทยตอนล่างและภาคใต้ตอนล่างทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 81% ของความจุเก็บกัก (65,003 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 70% (40,784 ล้าน ลบ.ม.) เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำต่ำกว่าระดับควบคุมต่ำสุดหรือมีน้ำใช้การน้อยกว่า 30% 3 แห่ง ดังนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จุฬาภรณ์ สิรินธร และลำตะคอง
– เฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำสูงกว่าระดับควบคุมบน 1 แห่ง ดังนี้ ภาคใต้ : บางลาง
3. คุณภาพน้ำ : แม่น้ำสายหลัก 4 สาย (เจ้าพระยา ท่าจีน แม่กลอง และบางปะกง) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
4. ประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ : ประกาศ สทนช. ฉบับที่ 22/2567.ลงวันที่ 9 ธ.ค. 67 เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ภาคใต้ ในช่วงวันที่ 12 – 16 ธ.ค. 67 ดังนี้
1. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทัน บริเวณ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
2. เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 บริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี สงขลา ยะลา และอ่างเก็บน้ำที่มีสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำมากกว่าความจุเก็บกักที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ และส่งผลกระทบให้น้ำท่วมบริเวณด้านท้ายน้ำ สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่โดยเฉพาะเขื่อนบางลาง จ.ยะลา ปัจจุบันปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่าต่อเนื่อง มีความเสี่ยงอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเขื่อนให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบบริเวณท้ายเขื่อนน้อยที่สุด และให้คำนึงถึงความปลอดภัยของเขื่อนด้วย
3. เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของคลองชุมพร คลองหลังสวน แม่น้ำตาปี คลองท่าดี คลองชะอวด แม่น้ำตรัง คลองลำ คลองท่าแนะ คลองอู่ตะเภา แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำบางนรา แม่น้ำโก-ลก และคลองตันหยงมัส
5. สถานการณ์เพาะปลูกพืช
แผนและผลการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง ปี 2567/68 ทั้งประเทศ แผนการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง ทั้งในและนอกเขตชลประทาน 15.38 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 4.52 ล้านไร่ (29%) ซึ่งอยู่ในแผนฯ จำแนกได้ดังนี้
– แผนปลูกข้าวนาปรังทั้งประเทศ 12.73 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 4.01 ล้านไร่ (32%)
– แผนการเพาะปลูกพืชไร่ พืชผักทั้งประเทศ 2.65 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 0.51 ล้านไร่ (19%)
ลุ่มน้ำเจ้าพระยา แผนการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง ทั้งในและนอกเขตชลประทาน 8.81 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 3.43 ล้านไร่ (39%) ซึ่งอยู่ในแผนฯ จำแนกได้ดังนี้
– แผนปลูกข้าวนาปรัง 8.05 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 3.16 ล้านไร่ (39%)
– แผนการเพาะปลูกพืชไร่ พืชผัก 0.76 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 0.27 ล้านไร่ (36%)
ลุ่มน้ำแม่กลอง แผนการเพาะปลูกพืชในช่วงฤดูแล้ง ทั้งในและนอกเขตชลประทาน 1.12 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 0.04 ล้านไร่ (4%) ซึ่งอยู่ในแผนฯ จำแนกได้ดังนี้
– แผนปลูกข้าวนาปรัง 0.86 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 0.02 ล้านไร่ (2%)
– แผนการเพาะปลูกพืชไร่ พืชผัก 0.26 ล้านไร่ เพาะปลูกแล้ว 0.02 ล้านไร่ (8%)
6. สถานการณ์อุทกภัย
สถานการณ์อุทกภัย วันที่ 12 ธ.ค. 67 ในพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 1 จังหวัด 5 อำเภอ ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช (อ.ชะอวด เฉลิมพระเกียรติ เมืองฯ ปากพนัง และเชียรใหญ่) ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,805 ครัวเรือน