“เฉลิมชัย” มั่นใจ ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะช่วยแก้วิกฤต “พะยูน”

วันที่ 10 ธันวาคม 2567 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยหลังจากการลงพื้นที่เกาะลิบง จ.ตรัง เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา ว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาวิกฤตพะยูนและแหล่งหญ้าทะเลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) พร้อมรับฟังข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาจากชุมชนและเครือข่ายกลุ่มอนุรักษ์ในพื้นที่แล้ว มั่นใจว่าความร่วมมือและความตั้งใจจากทุกภาคส่วนจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตพะยูนและแหล่งหญ้าทะเลครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นปัญหาที่สะสมมานานและเกิดมาจากหลายสาเหตุ ทั้งความเสื่อมโทรมของแหล่งหญ้าทะเล ความอ่อนแอของพะยูนเอง และจากการกระทำของมนุษย์

ดร.เฉลิมชัย กล่าวต่อว่า นอกจาก 4 มาตรการที่ทาง ทช. และ อส. ได้ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว ยังได้เน้นย้ำไปว่า สิ่งแรกที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุด คือ ต้องหยุดการตายของพะยูนให้น้อยที่สุด ต่อมาคือ การฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเล ที่ ทช. และ อส. ต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน เป็น ทส. หนึ่งเดียว และต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งพี่น้องประชาชน ชุมชน ที่เป็นกำลังหลัก รวมถึงพี่น้องประมงพื้นบ้าน กลุ่มอนุรักษ์ต่าง ๆ ส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการในภูมิภาค และส่วนราชการอื่น ๆ ที่สำคัญคือ ขอให้ลองคิดนอกกรอบในการหาแนวทางแก้ไขปัญหา เช่น การปลูกหญ้าทะเลในแหล่งอื่นที่มีความสมบูรณ์ การหาอาหารทดแทนหญ้าทะเลให้กับพะยูน เป็นต้น แม้ว่าจะต้องใช้เวลาก็ขอให้ลองทำ เพื่อแก้ไขวิกฤตนี้ให้ได้ เพราะหากเราเริ่มช้าไปกว่านี้ การแก้ไขปัญหาก็จะยิ่งช้าออกไป

ดร.เฉลิมชัย กล่าวย้ำอีกว่า นอกจากนี้ ยังขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันเฝ้าระวังแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูน เร่งสำรวจจำนวนประชากรพะยูนให้ชัดเจน รวมถึงการศึกษาวิถีชีวิต เส้นทางการเดินทาง การแพร่กระจายตัวของพะยูน และการเฝ้าระวังประเมินสุขภาพพะยูน ในส่วนของงบประมาณที่ต้องใช้ในการดำเนินงานเพื่อของบกลาง ขอให้เร่งสำรวจและจัดทำเท่าที่จำเป็น โดยการดำเนินงานต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เพื่อช่วยกันรักษาพะยูน ที่เป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศ ให้คงอยู่ต่อไป