“ดร.เฉลิมชัย” มอบสมุดประจำตัวที่ดินทำกินในพื้นที่ป่าสงวนฯ ลุ่มน้ำชั้น 1 และ 2 ให้ชาวพัทลุง 5 อำเภอ กว่า 800 ราย เนื้อที่กว่า 5.6 พันไร่ สร้างความมั่นคงที่อยู่ที่ทำกินให้ราษฎร

วันที่ 6 ธันวาคม 2567 เวลา 10.00 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานในพิธีมอบหนังสืออนุญาตและมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 ท้องที่จังหวัดพัทลุง โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ พร้อมด้วย นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ตลอดจนคณะผู้บริหารกระทรวงฯ หน่วยงานในพื้นที่ และประชาชนที่ได้รับมอบสมุดประจำตัวฯ เข้าร่วมพิธี ณ หอประชุมโรงเรียนตะโหมด จังหวัดพัทลุง

โดย ดร.เฉลิมชัย รมว.ทส. ได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าควนหินกอง ป่าควนโพธิ์เล ป่าควนขี้หมิ้น และป่าควนน้ำทรัพย์ ให้แก่รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เพื่อนำไปดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนต่อไป และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 และ 2 พร้อมกล้าไม้ให้แก่ผู้แทนราษฎร 5 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 831 ราย เนื้อที่กว่า 5,694 ไร่ ได้แก่ อ.ตะโหมด อ.กงหรา อ.ควนขนุน อ.ศรีนครินทร์ และ อ.ศรีบรรพต นอกจากนี้ ยังได้มอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ รักษ์ป่า รักแผ่นดิน ให้แก่ข้าราชการในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ช่วยเหลืองานราชการของกรมป่าไม้ พร้อมมอบเงินอุดหนุนกิจกรรมบริหารงานป่าชุมชนบ้านทุ่งสำโรง และมอบทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนตะโหมด

ดร.เฉลิมชัย กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมป่าไม้ พร้อมแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อันจะทำให้หน่วยงานต่าง ๆ สามารถเข้าไปพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานได้ พี่น้องประชาชนจะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และได้เน้นย้ำให้ประชาชนมีส่วนในการช่วยอนุรักษ์ผืนป่าให้อยู่คู่กับคนไทยอีกทางหนึ่ง โดยการปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว นอกจากนี้ รมว.ทส. ยังกล่าวต่ออีกว่า “ความล่าช้า คือ ความอยุติธรรม” ดังนั้น ทส. จะเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยที่ทำกินในเขตพื้นที่ป่าสงวนฯ อย่างเร็วที่สุด ในพื้นที่ที่ยังไม่ได้รับสมุดประจำตัวฯ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีที่ดินทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไป