“วีริศ” ร่วมเสวนาในงาน Sustainability Forum 2025 ตั้งเป้า รฟท. ร่วมลดคาร์บอนไดออกไซด์ 1 แสนตัน พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางระบบรางในภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประทศไทย ร่วมเสวนาหัวข้อ The Next Chapter of Transportation for Sustainability ในงาน Sustainability Forum 2025 : Synergizing for Driving Business เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอนว่า ปัจจุบัน “ระบบราง” ถือเป็นภาคการขนส่งที่สำคัญของไทย ทั้งในภาคการขนส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้า ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนพัฒนาระบบรางให้เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ในการดำเนินงานโครงข่ายคมนาคมขนส่งทางราง ทั้งโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ระยะที่ 2 และรถไฟสายใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทาง การขนส่ง และภาคโลจิสติกส์ของประเทศให้ครอบคลุมระดับภูมิภาค รวม 27 เส้นทาง นับเป็นระยะทางกว่า 4,548 กิโลเมตร ในพื้นที่ 64 จังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วตามแผน

ขณะเดียวกัน การรถไฟฯ ยังให้ความสำคัญกับการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการขนส่งระบบราง ลดการใช้พลังงาน ลดมลภาวะและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยดัดแปลงรถโดยสารเป็นรถโบกี้ไฟฟ้ากำลัง (Power Car) ที่ติดตั้งชุดเครื่องยนต์เครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Diesel Generator Set) ขนาด 450 kVA จำนวน 20 คัน ซึ่งปัจจุบันแล้วเสร็จ จำนวน 8 คัน และอยู่ระหว่างปรับปรุงอีก 12 คัน เพื่อผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับระบบปรับอากาศในตู้โดยสารทั้งขบวน จากเดิมที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทุกตู้

ทั้งนี้ จะนำมาใช้งานร่วมกับขบวนรถโดยสาร ในโครงการปรับปรุงชุดขบวนรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 192 คัน ที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม โดยเริ่มดำเนินการดัดแปลงชุดแรก 96 คัน และจะทยอยนำออกมาให้บริการได้ในปี 2569 ซึ่งคาดว่าสามารถลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้กว่า 10 ล้านบาท/ขบวน/ปี

นายวีริศ กล่าวด้วยว่า การรถไฟฯ ยังได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการรถไฟ ให้จัดซื้อหัวรถจักรไฮบริด จำนวน 113 คัน เพื่อลดการใช้พลังงานดีเซลลง 10-30% ซึ่งจะช่วยให้การรถไฟฯ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีกประมาณ 100,000 ตัน รวมถึงยังมีโครงการจัดหารถจักรสับเปลี่ยนที่ใช้แบตเตอรี่ มาใช้งานในย่านสับเปลี่ยนที่ย่านสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ จำนวน 17 คัน ทดแทนรถจักรสับเปลี่ยนเดิมที่มีสภาพการใช้งานกว่า 60 ปีด้วย

ปัจจุบัน การรถไฟฯ ยังเตรียมติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เพื่อเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดทดแทน คาดว่าใน 1 ปี จะลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 10,000 ตัน เชื่อว่าจะทำให้ภาพรวมการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของการรถไฟฯ นั้น จะสามารถลดได้กว่า 110,000 ตันต่อปี

“การรถไฟฯ พร้อมขับเคลื่อนทุกโครงการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมและรัฐบาล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางระบบรางในภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน” นายวีริศ กล่าว