วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.00 น. นายราเชน ศิลปะรายะ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า ตามที่ขณะนี้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ทางภาคใต้หลายจังหวัด ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้เร่งเข้าช่วยเหลือตามข้อสั่งการของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา สั่งการให้นำเฮลิคอปเตอร์เข้าพื้นที่เพื่อส่งสิ่งของให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ นำรถบรรทุก จำนวน 4 คัน เดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปยังจังหวัดสงขลา เพื่อช่วยลำเลียงถุงยังชีพและสิ่งของขึ้นเครื่องบินไปยังจังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา ส่วนเมื่อวานนี้ (29 พฤศจิกายน 2567) ตั้งแต่ช่วงเช้าทางเจ้าหน้าที่นำรถบรรทุกช่วยเคลื่อนย้ายประชาชนและสิ่งของในจังหวัดสงขลา และช่วงเย็นได้สั่งการให้นำเครื่องบินขนาดกลาง (คาซ่า) ลงไปยังสนามบินกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เพื่อลำเลียงถุงยังชีพจากมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า จำนวน 1,000 ชุด และส่งต่อให้กับพื้นที่จังหวัดนราธิวาส
นายราเชน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเช้าวันนี้ได้สั่งการสนับสนุนภารกิจแบ่งเป็น 2 ทีม ได้แก่ ทีมที่ 1 นำรถบรรทุก 6 ล้อ ลำเลียงถุงยังชีพและเข้าช่วยเหลือเคลื่อนย้ายประชาชนและสิ่งของในพื้นที่อำเภอจะนะ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา โดยได้รับการประสานจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลป่าชิง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา และลงพื้นที่พร้อมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และทีมที่ 2 เจ้าหน้าที่ช่วยลำเลียงถุงยังชีพขึ้นเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร (คาซ่า) เพื่อนำส่งต่อให้พื้นที่จังหวัดนราธิวาสต่อเนื่อง จำนวน 2 เที่ยวบิน ในเวลา 08.55 น. และเวลา 10.30 น. และในช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ได้ช่วยกันลำเลียงสิ่งของอุปโภคบริโภคและข้าวกล่องแจกจ่ายให้กับประชาชนในอำเภอจะโหนง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา รวมถึงเจ้าหน้าที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตรในส่วนกลาง กรุงเทพฯ ได้ร่วมกันแพ็คถุงยังชีพเพื่อนำขึ้นเครื่องบินคาซ่าในเวลา 16.00 น. เดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังสนามบินกองบิน 56 อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา
อย่างไรก็ตาม ทางกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวใต้ที่ประสบอุทกภัย และพร้อมสนับสนุนสรรพกำลังอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนจนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายลง นายราเชน กล่าวทิ้งท้าย