นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงผลการประเมินเบื้องต้นพบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 24 พ.ย. 67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 31 ล้านคน สำหรับในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) ฟื้นตัวด้านการเดินทางโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาสะสมแล้วกว่า 6 ล้านคน อีกทั้งนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากถึงร้อยละ 14.28 จากสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกลชะลอตัวด้านการเดินทางซึ่งเป็นแนวโน้มปกติ ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนธันวาคม ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 749,306 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 1,362 คน หรือร้อยละ 0.18 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 107,044 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (122,020 คน) มาเลเซีย (81,886 คน) รัสเซีย (50,071 คน) อินเดีย (46,259 คน) และเกาหลีใต้ (38,959 คน) โดยนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ จีน รัสเซีย และอินเดีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 14.28 ร้อยละ 7.18 ร้อยละ 3.37 และร้อยละ 1.88 ตามลำดับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวมาเลเซีย มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อนหน้า
สําหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ การเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคยุโรป การมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีผลต่อจำนวนที่นั่งเข้าไทย (Seat Capacity) ระหว่างเดือนกรกฎาคมมาจนถึงเดือนสิ้นปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ที่ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น
สําหรับภาพรวมการท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 25 พ.ย. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 24 พ.ย. 67 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 31,313,787 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,466,408 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (6,096,010 คน) มาเลเซีย (4,443,173 คน) อินเดีย (1,868,802 คน) เกาหลีใต้ (1,647,328 คน) และรัสเซีย (1,455,398 คน)