ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมเครื่องสำอางอาเซียน ครั้งที่ 40 หารือปรับกฎระเบียบให้สอดคล้องในกลุ่มประเทศอาเซียน ลดอุปสรรคทางการค้า เฝ้าระวังภัยเครื่องสำอางในภูมิภาค มุ่งเน้นความปลอดภัยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สร้างความความมั่นใจให้ผู้บริโภค ส่งเสริมนวัตกรรมและความยั่งยืนในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นประธานเปิดงานประชุมคณะกรรมการเครื่องสำอางอาเซียน ครั้งที่ 40 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 22 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรม Pullman Bangkok King Power ประเทศไทย โดยมีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน
นายแพทย์สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้ลงนามในข้อตกลงที่จะปรับกฎระเบียบด้านเครื่องสำอางให้สอดคล้องกันในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน (Agreement on the ASEAN Harmonized Cosmetic Regulatory Scheme) เมื่อปี พ.ศ. 2546 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในเรื่องความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเครื่องสำอางอาเซียนเพื่อหารือและติดตามการปรับปรุงกฎระเบียบเป็นระยะ โดยประเทศสมาชิกจะผลัดเปลี่ยนเป็นเจ้าภาพจัดประชุม ซึ่งจะจัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนพฤศจิกายน โดยในครั้งนี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมคณะกรรมการเครื่องสำอางอาเซียน ครั้งที่ 40 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (The 40th Meeting of the ASEAN Cosmetic Committee and Its Related Meetings) ได้แก่ การประชุมคณะกรรมการเครื่องสำอางอาเซียน (ASEAN Cosmetic Committee หรือ ACC) การประชุมหัวหน้าคณะผู้แทนคณะกรรมการเครื่องสำอางอาเซียน (Heads of Delegations หรือ HODs) การประชุมคณะทำงานวิชาการเครื่องสำอางอาเซียน (ASEAN Cosmetic Scientific Body หรือ ACSB) และการประชุมคณะกรรมการห้องปฏิบัติการทดสอบเครื่องสำอางอาเซียน (ASEAN Cosmetic Testing Laboratories Committee หรือ ACTLC)
เลขาธิการฯ อย. กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย ทั้งต่อผู้บริโภคที่ได้รับการคุ้มครองจากการใช้เครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สำหรับผู้ประกอบการด้านเครื่องสำอาง จะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในการปฏิบัติตามบทบัญญัติเครื่องสำอางสากล ลดอุปสรรคทางการค้า ทำให้การนำเข้า-ส่งออกเครื่องสำอางระหว่างภูมิภาคมีความคล่องตัว อีกทั้งมุ่งเน้นความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง การติดตามเฝ้าระวังและการแจ้งเตือนภัยเครื่องสำอางอันตรายในภูมิภาค ถือเป็นความสำคัญยิ่งต่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านกฎระเบียบและมาตรฐานเครื่องสำอางในกลุ่มประเทศอาเซียนให้เกิดความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันและเป็นสากล ส่งผลให้เกิดความเข้มแข็งในภูมิภาคอาเซียนที่จะร่วมกันเป็นฐานการผลิตเครื่องสำอางเพื่อส่งออกไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ ในการประชุมได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนแนวปฏิบัติต่อความเป็นอยู่โดยรวมของโลกให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน