“วราวุธ” นั่งหัวโต๊ะ เร่งเครื่อง พม. ดัน นโยบาย พันธกิจ 9 ด้าน ต่อยอดจากนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญ (Flagships) 9 ด้าน ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยมีคณะผู้บริหาร และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุม สป.1 ชั้น 8 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

นายวราวุธ เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า สืบเนื่องจากที่ตนได้มอบแนวทางการขับเคลื่อนงานกระทรวง พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 “NEXT STEP พม.” เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งในปี 2568 เราได้ตั้งเป้าในการขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญ (Flagships) ทั้งหมด 9 ด้าน แบ่งออกเป็น 5 ด้านแรก ที่ต่อยอดจากนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร ที่กระทรวง พม. ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ร่วมประชุมกันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้แก่ ด้านที่ 1 ยกระดับการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัย ด้านที่ 2 ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุ ด้านที่ 3 สร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนเปราะบาง ด้านที่ 4 พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ด้านที่ 5 สร้างหุ้นส่วนทางสังคม สู่สวัสดิการที่ยั่งยืน

และได้เพิ่มพันธกิจสำคัญอีก 4 ด้าน ได้แก่ ด้านที่ 6 การขับเคลื่อนพันธกรณีระหว่างต่างประเทศที่สำคัญ ด้านที่ 7 การสื่อสารประชาสัมพันธ์ทางสังคมเชิงรุก ด้านที่ 8 พัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านสังคม และ ด้านที่ 9 พัฒนาระบบ พม.ดิจิทัล และฐานข้อมูล ซึ่งทั้ง 9 ด้านนั้น กระทรวง พม. จะเร่งขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องต่อไป ตามนโยบายรัฐบาล โดยจากที่ประชุมวันนี้ เราได้มีการแบ่งผู้รับผิดชอบโครงการทั้ง 9 ด้าน พร้อมทั้งจัดทำ (ร่าง) คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับติดตาม และคณะทำงานขับเคลื่อนพันธกิจสำคัญ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ขึ้น เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินงานและติดตามผล

นายวราวุธ กล่าวว่า จากที่ประชุม กระทรวง พม. ได้กำหนดกรอบแนวคิดสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 – 2569 ในพันธกิจทั้ง 9 ด้าน ประกอบด้วย ด้านที่ 1 การยกระดับคุณภาพเด็กปฐมวัยด้วยศูนย์เด็กเล็ก และขยายผลศูนย์เด็กเล็กที่มีคุณภาพ การพัฒนาความเป็นเลิศของศูนย์เด็กเล็ก (Excellence Center for Early Childhood Development) ที่เทศบาลมาบตาพุด พร้อมพัฒนาระบบ Application เพื่อการกำกับติดตามการดูแลเด็กปฐมวัยด้วยระบบ Digital Technology

ด้านที่ 2 ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุ ขยายผลโครงการบริบาลคุ้มครองสิทธิ์ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด การพัฒนาระบบ Application เพื่อการกำกับติดตามการดูแลผู้สูงอายุด้วยระบบ Digital Technology ปรับโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกของ ศพอส.ทุกแห่ง ให้เอื้อต่อการเพิ่มพูนศักยภาพผู้สูงอายุ ส่งเสริมการเตรียมความพร้อมของประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปให้พร้อมเป็นผู้สูงอายุคุณภาพ

ด้านที่ 3 สร้างงาน สร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนเปราะบาง (คนจน คนพิการ ผู้สูงอายุ สตรี) และครอบครัวในนิคมสร้างตนเองทั้ง 25 แห่ง และสร้างวิสาหกิจชุมชนของกลุ่มเปราะบางในนิคมสร้างตนเอง เพื่อการสร้างอาชีพ และรายได้อย่างยั่งยืน

ด้านที่ 4 พัฒนาศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการ ให้สามารถสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงแก่คนพิการ สร้างพื้นที่แสดง และจำหน่ายสินค้า/บริการที่ผลิตโดยคนพิการ ทั้งในรูปแบบของพื้นที่ถาวร รถเคลื่อนที่ และผ่านระบบออนไลน์ และส่งเสริมผู้พิการที่มีความสามารถพิเศษให้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตคนพิการ

ด้านที่ 5 สร้างระบบและกลไกการจัดสวัสดิการที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ โดยนำพระราชบัญญัติส่งเสริมสวัสดิการ พ.ศ. 2546 มาเป็นกรอบในการพัฒนา รวมถึงสร้างต้นแบบการจัดสวัสดิการสังคมร่วมกับภาคีเครือข่าย (กระทรวง วัด มูลนิธิ องค์กรสาธารณประโยชน์)

ด้านที่ 6 สร้างความเป็นผู้นำของประเทศไทยในเวทีโลก ด้วยการนำพันธกรณีตามสนธิสัญญาและอนุสัญญาระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประชากรกลุ่มเปราะบางและการพัฒนาทางสังคม มาขับเคลื่อนให้สัมฤทธิ์ผล

ด้านที่ 7 ปรับบทบาทในการจัดการต่อประเด็นท้าทายทางสังคม และการปฏิบัติตามนโยบายของ พม. ให้เป็นเชิงรุก ปรับเปลี่ยนการสื่อสาร แนวคิด และการปฏิบัตินโยบายเชิงรุกกับประชากรกลุ่มกรอบแนวคิดสำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2569 และหน่วยงานต่างๆ รวมถึงหน่วยงานภายในกระทรวงด้วย และพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งด้านบุคลากร และโสตทัศนูปกรณ์ให้สามารถผลิดสื่อที่ประสิทธิภาพและทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตสื่อและการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)

ด้านที่ 8 สร้างพื้นที่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาในมิติทางสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระหว่างผู้นำระดับประเทศ ภูมิภาค และท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่ความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทย และการพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน พัฒนาหลักสูตรความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคนและสังคม ตลอดจนการจัดระบบสวัสดิการที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ (ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ภูมิภาค จนถึงระดับประเทศ) พัฒนาความรู้ ทักษะ และทัศนคติและความคิดของบุคลากรภายใน พม.ให้เอื้อต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจของกระทรวง อย่างเต็มศักยภาพด้วยความรับผิดชอบและเน้นการทำงานเชิงรุก

ด้านที่ 9 บูรณาการข้อมูลของหน่วยงานทั้งในสังกัดพม. และหน่วยงานภายนอก อย่างเป็นระบบ และเป็นปัจจุบัน เพื่อให้เป็นฐานข้อมูลที่พร้อมใช้ในการขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงและรัฐบาล โดยคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยของระบบฐานข้อมูล อย่างไรก็ตาม จะมีการประชุมติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายฯ เป็นประจำทุกเดือน เดือนละครั้ง เพื่อรับฟังความคืบหน้าของโครงการต่างๆ ปัญหา อุปสรรค และร่วมกันหาแนวทางการขับเคลื่อนงานอย่างเป็นระบบ ให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นคงในชีวิต

#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #flagship