ปลัด ศธ. ‘สุเทพ’ เร่งเครื่องศึกษาธิการจังหวัด แนะสร้างศรัทธาในการทำงานคู่กับความร่วมมือพันธมิตรในพื้นที่

14 พฤศจิกายน 2567/ นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มอบนโยบายขับเคลื่อนการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในระดับพื้นที่ ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ โรงแรมเทพนคร (อัลวาเรซ) อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์

นายสุเทพ กล่าวถึงระเบียบคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค “ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการการมอบอำนาจให้ศึกษาธิการจังหวัดปฏิบัติราชการแทน” ข้อ 12 เพื่อประโยชน์ในการบริหารงาน กำกับดูแล และบูรณาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร ให้เลขาธิการหรืออธิบดีมอบอำนาจการบริหารงานบุคคล การบริหารทั่วไป วิชาการงบประมาณ และทรัพย์สินให้ศึกษาธิการจังหวัดปฏิบัติราชการแทน

อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในระดับพื้นที่นั้น ทางส่วนกลางก็มีกลไกในการสนับสนุนให้ศึกษาธิการจังหวัดสามารถทำงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น โดยตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการในคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด สามารถเสนอแนะแนวทางการขับเคลื่อนโยบายการศึกษาของจังหวัดต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดให้สอดคล้องกับนโยบายการศึกษาและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ กำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของจังหวัด, การขับเคลื่อนเพื่อยกระดับผลการทดสอบ PISA ระดับจังหวัด, รายงานผลการดำเนินงานเสนอต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดและคณะกรรมการ ขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค

นายสุเทพ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติเป็นอย่างมาก โดยมีข้อสั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการและรองศึกษาธิการภาคเป็นผู้ให้คำปรึกษา แนะนำ และให้ข้อเสนอแนะแก่ศึกษาธิการจังหวัด เพื่อให้ศึกษาธิการจังหวัดสามารถคิดหาแนวทางในการขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาของพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมตามบริบทของแต่ละพื้นที่ เกิดการบูรณาการด้านการศึกษาในพื้นที่อย่างแท้จริง

ขณะที่ศึกษาธิการภาคและศึกษาธิการจังหวัด จะต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำด้านการศึกษาและเป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาในพื้นที่ ผ่านกลไก กศจ. เพื่อให้การทำงานด้านการศึกษาในพื้นที่เกิดการบูรณาการ และในขณะนี้เรากำลังเร่งจัดการเรื่องของเด็กหลุดจากระบบการศึกษา จึงให้ ศธจ.เป็นหลักในการทำงานร่วมกับทุกหน่วยงานที่มีสถานศึกษาในสังกัดในพื้นที่ โดยต้องนำเด็กกลับเข้าสู่ระบบการศึกษาให้หมดให้ได้ รวมถึงจังหวัดพื้นที่นวัตกรรม ต้องออกแบบงานเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงการศึกษาของประเทศให้เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม ตามที่ได้รับการเลือกมาเป็นพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาที่สามารถพัฒนาการศึกษาได้อิสระและยืดหยุ่นมากกว่าพื้นที่อื่น

“อยากขอให้ศึกษาธิการจังหวัดทุกท่านคิดว่า ทุกภารกิจที่ได้รับมอบหมายคือโอกาส ‘อย่าเกี่ยงงาน’เพราะการเกี่ยงงานคือการละทิ้งโอกาสอันเจริญก้าวหน้าของตัวเอง เพราะค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน ตราบใดที่เราทำงานประสบผลสำเร็จจะส่งผลให้มีคุณค่าในสายตาของผู้บังคับบัญชาเสมอ” ปลัด ศธ. กล่าว

อีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้การขับเคลื่อนงานด้านศึกษาในพื้นที่มีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จได้ดีขึ้น คือการสร้างความศรัทธาให้แก่หน่วยงานภายนอก คนในพื้นที่ หรือ 4 บุคคลมีอิทธิพล (influence) ในจังหวัด ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด นักการเมืองท้องถิ่น ศึกษาธิการจังหวัด และเจ้าอาวาสวัดในชุมชน ซึ่งพลังเหล่านี้สามารถช่วยเราได้มากกว่าที่เราคาดคิดได้

ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าการทำงานให้สังคมได้รับทราบ เพราะหากทำงานอย่างเต็มที่สักเท่าไหร่ แต่ไม่มีใครรู้ ก็ถือว่าไม่สำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้นการให้บุคคลที่น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับในจังหวัด มาช่วยพูดถึงการทำงานของเรา ช่วยประชาสัมพันธ์ภารกิจให้รับทราบทั่วกัน จะทำให้สังคมได้เห็นว่ากระทรวงศึกษาธิการไม่เคยหยุดพัฒนา เพื่ออนาคตของผู้เรียนของเราทุกคน