“พิชัย” โชว์ตัวเลขส่งออกข้าว คาดทั้งปีทะลุ 9 ล้านตัน สั่งพาณิชย์จับมือเอกชนดันส่งออกข้าวไทยสร้างรายได้เกษตรกรต่อเนื่อง

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยข้อมูลการส่งออกข้าวไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (เดือนมกราคม – กันยายน) ว่ามีปริมาณ 7.45 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 22.13 และมีมูลค่า 172,019 ล้านบาท (ประมาณ 4,834 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 45.85 อันเป็นผลมาจากผู้นำเข้าข้าวมีความต้องการนำเข้าข้าวเพื่อใช้บริโภคและเก็บเป็นสต็อกเพื่อความมั่นคงทางอาหาร และเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งที่ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตข้าวในประเทศรวมถึงบรรเทาผลกระทบจากเงินเฟ้อด้านอาหาร

ในขณะที่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 ไทยมีผลผลิตข้าวนาปีออกสู่ตลาดทำให้มีคำสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยตลาดส่งออกข้าวไทยที่สำคัญ ได้แก่ อินโดนีเซีย นำเข้าข้าวจากไทยมากเป็นอันดับหนึ่งที่ปริมาณ 1.09 ล้านตัน คิดเป็นร้อยละ 14.66 ของปริมาณการส่งออกข้าวไทยทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ อิรัก (ร้อยละ 12.19) สหรัฐอเมริกา (ร้อยละ 8.18) แอฟริกาใต้ (ร้อยละ 7.79) และฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 5.36)

นายพิชัย กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศ และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ได้คาดการณ์ร่วมกันว่าในปี 2567 มีแนวโน้มส่งออกข้าวได้ถึง 9 ล้านตัน นำรายได้เข้าประเทศกว่า 6,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 230,000 ล้านบาท เนื่องจากยังคงมีผู้นำเข้าข้าวจากหลายประเทศที่ต้องการนำเข้าข้าวเพื่อรองรับกับความต้องการช่วงปลายปีสำหรับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ประกอบกับผลผลิตข้าวนาปีของไทยที่กำลังออกสู่ตลาดมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากปริมาณน้ำสำหรับเพาะปลูกที่เพิ่มขึ้น

รมว.พาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนี้ตนได้กำชับให้กรมการค้าต่างประเทศติดตามสถานการณ์การค้าข้าวโลกอย่างใกล้ชิดและจัดทำแผนผลักดันการส่งออกข้าวไทยภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยรักษาตลาดเดิม เช่น แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ รุกตลาดใหม่รวมถึงตลาดที่มีศักยภาพ เช่นยุโรป แคนาดา และภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งมีแนวโน้มต้องการเพิ่มความมั่นคงทางอาหาร สอดรับกับนโยบายรัฐบาล นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนการจัดงานประชุมข้าวนานาชาติ Thailand Rice Convention (TRC) ซึ่งเป็นงานประชุมใหญ่ที่ผู้เชี่ยวชาญในวงการค้าข้าวโลกมาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวโลกและเจรจาธุรกิจระหว่างกัน ซึ่งทั้งหมดจะเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยให้มีคำสั่งซื้อรองรับผลผลิตข้าวและสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวไทย