“พิพัฒน์” ส่งหน่วยเฉพาะกิจลงตลาดไท ป้องปราม ชี้แนะ การจ้างแรงงานข้ามชาติที่ถูกต้อง แก่สถานประกอบการ

กระทรวงแรงงาน ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตลาดไท ตรวจสอบ แนะนำการจ้างแรงงานข้ามชาติที่ถูกต้อง นายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานข้ามชาติ พร้อมสร้างการรับรู้แนวทางการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาภาคแรงงาน การรักษาความสมดุลระหว่างการจ้างงานคนสัญชาติไทยให้มีงานทำ และบริหารจัดการการทำงานของแรงงานข้ามชาติ ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้ประกอบการ สามารถขับเคลื่อนกิจการทั้งภาคการผลิต ภาคการเกษตร และภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นเรื่องที่กระทรวงแรงงานให้ความสำคัญ ซึ่งได้มีการออกมติครม.ในวาระต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานข้ามชาติเรื่อยมา โดยล่าสุดครม. ได้มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ให้แรงงาน 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตทำงานในลักษณะ MOU เพื่อให้สามารถทำงานเป็นเวลา 2 ปี และต่ออายุได้อีกครั้ง เป็นระยะเวลา 2 ปี

อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ต้องคำนึงถึงโอกาสในการประกอบอาชีพของคนไทย ความมั่นคงของชาติ ตลอดจนป้องกันการค้ามนุษย์ด้านแรงงานหรือบังคับใช้แรงงาน ดังนั้น ก่อนถึงวันเปิดให้ดำเนินการดังกล่าว ผมจึงได้มอบหมายให้กรมการจัดหางานร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงลงพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อตรวจแนะนำการจ้างแรงงานข้ามชาติที่ถูกต้อง แก่นายจ้าง สถานประกอบการ และประชาสัมพันธ์การดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้แรงงานข้ามชาติตามมติครม. เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกระบวนการ ขั้นตอน ที่กระทรวงแรงงานกำหนดได้อย่างถูกต้อง

“ขอให้นายจ้าง/สถานประกอบการ ที่จ้างแรงงานข้ามชาติที่อายุใบอนุญาตทำงานจะสิ้นสุด วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ให้ยื่นต่อใบอนุญาตทำงาน ภายในระยะเวลาที่กระทรวงแรงงานกำหนด ซึ่งหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการดังกล่าว กระทรวงแรงงานจะดำเนินการตรวจสอบ ปราบปราม จับกุมดำเนินคดีแรงงานข้ามชาติที่ลักลอบทำงานผิดกฎหมาย รวมทั้งแรงงานข้ามชาติและนายจ้าง/สถานประกอบการ ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว

ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน รับข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส่งเจ้าหน้าที่ด้านการตรวจสอบการทำงานของแรงงานข้ามชาติ และสถานประกอบการอย่างเข้มข้น ล่าสุดในวันนี้ 8 พฤศจิกายน 2567 ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน นำกำลังเจ้าหน้าที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ร่วมกับสำนักงานจัดหางานจังหวัดปทุมธานี สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดปทุมธานี จำนวน 50 นาย บูรณาการตรวจ แนะนำการจ้างแรงงานข้ามชาติที่ถูกต้อง และประชาสัมพันธ์การดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้แรงงานข้ามชาติตามมติครม. เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ณ ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี เป้าหมายการดำเนินการ นายจ้าง 1,000 ราย แรงงานข้ามชาติ 2,500 คน จากการลงพื้นของเจ้าหน้าที่ได้พบผู้บริหารตลาดไท โดยผู้บริหารตลาดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้ทราบแนวทาง ขั้นตอนเอกสาร ในการดำเนินการต่อใบอนุญาตทำงานของแรงงานข้ามชาติ และพบกับสถานประกอบการที่ค้าขายในตลาด พร้อมแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์การต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากนายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานข้ามชาติเป็นอย่างดี และพร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่แนะนำ

ทั้งนี้ สำหรับนายจ้าง สถานประกอบการที่จ้างแรงงานข้ามชาติ 4 สัญชาติ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ได้รับอนุญาตทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 หากประสงค์จะทำงานต่อไปสามารถดำเนินการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง หรือติดต่อขอรับบริการจากเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 ในท้องที่ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานที่ทำงานของแรงงานข้ามชาติ หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694