อย. เตือนผู้ประกอบวิชาชีพด้านความงาม ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากลักลอบจำหน่ายหรือใช้ยาฉีดที่ไม่ได้รับอนุญาตจะถูกดำเนินคดี มีโทษทั้งจำและปรับ รวมถึงอาจถูกแจ้งความเอาผิดต่อแพทยสภาด้านจรรยาบรรณ
เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สนธิกำลังร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้เข้าตรวจสอบคลินิกที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภค พบมีการใช้ยาที่ไม่มีการขึ้นทะเบียนตำรับยา และมีเอกสารที่ทำการโฆษณาเกี่ยวกับยา เครื่องมือแพทย์ และเครื่องสำอาง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมดเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
เบื้องต้นมีความผิดตามพระราชบัญญัติต่าง ๆ ได้แก่
1. พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่ 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000บาท และ โฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท
2. พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2551 โฆษณาเครื่องมือแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท
3. พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 โฆษณาเครื่องสำอางโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท
จึงขอเตือนคลินิกด้านเสริมความงาม และผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากมีการลักลอบนำเข้าหรือขายยาฉีดที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษทั้งจำและปรับ กรณีแพทย์เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายจะถูกส่งเรื่องร้องเรียนไปยังแพทยสภาให้ดำเนินการเอาผิดทางจรรยาบรรณแพทย์ต่อไป
สำหรับผู้บริโภค หากจำเป็นหรือต้องการเข้ารับการบริการด้านเสริมความงามหรือแก้ไขความบกพร่องบนใบหน้า ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยให้มากที่สุด โดยเลือกใช้บริการในคลินิกที่มีแพทย์ชำนาญการอยู่ประจำ สอบถามและขอดูผลิตภัณฑ์ที่ใช้ด้วยว่าได้รับอนุญาตจาก อย. หรือไม่ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบการอนุญาตผลิตภัณฑ์สุขภาพได้ที่ www.fda.moph.go.th หรือ QR Code นี้ หากมีข้อสงสัยสามารถแจ้งเบาะแสร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1556 หรืออีเมล 1556@fda.moph.go.th หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง