สธ.เตรียมความพร้อมดูแลสุขภาพประชาชนร่วมรับเสด็จฯ ขบวนพยุหยาตราทางชลมารคถวายผ้าพระกฐิน

รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประชุมเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ฯ รองรับประชาชนกว่า 1 หมื่นคน เข้าร่วมรับเสด็จฯ ในพระราชพิธีถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค จัดทีมแพทย์ 1 ทีมประกบผู้เดินทางจาก 8 จังหวัด ผ่านการอำนวยความสะดวกของกระทรวงมหาดไทย พร้อมจัด 4 โซน 19 จุด ตลอดเส้นทางขบวนเรือ ดูแลสุขภาพกาย สุขภาพจิต พร้อมเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรค ประสานศูนย์เอราวัณส่งต่อผู้ป่วยไปยัง 4 โรงพยาบาล

วันที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข ในงานพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ว่า พระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นอีกหนึ่งวาระสำคัญที่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจะได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี คาดว่าจะมีประชาชนทั้งที่เดินทางมาเองและเดินทางโดยการอำนวยความสะดวกของกรุงเทพมหานคร และกระทรวงมหาดไทย มาร่วมรับเสด็จฯ ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคน จึงมีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมมาตรการด้านการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนที่มาร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจัดทีมแพทย์จากหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์ฯ โรงพยาบาล 4 เหล่าทัพ และภาคเอกชน รวม 45 ทีม

นพ.วีรวุฒิ กล่าวต่อว่า ภารกิจด้านการแพทย์จะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1.การดูแลผู้เข้าร่วมรับเสด็จฯ และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยกลุ่มผู้ที่มาจากต่างจังหวัดประมาณ 3,000 คน จาก 8 จังหวัด คือ ลพบุรี ปทุมธานี ชลบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี จังหวัดละ 300 คน ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และนครปฐม จังหวัดละ 500 คน จะแนะนำการดูแลสุขภาพตั้งแต่ก่อนเดินทาง และจัดทีมแพทย์ติดตามจังหวัดละ 1 ทีม ส่วนการดูแลขณะร่วมรับเสด็จฯ จะตั้งจุดบริการทางการแพทย์ตลอดแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา 4 โซน 19 จุดบริการ ได้แก่ โซนที่ 1 โรงพยาบาลเลิดสิน กำกับดูแล 3 จุด คือ ธนาคารแห่งประเทศไทย ใต้สะพานพระราม 8 – ศูนย์การเรียนรู้ และ Side Walk สวนสันติชัยปราการ-สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โซนที่ 2 ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. กำกับดูแล 7 จุด คือ ลาน 60 ปีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลานปรีดีพนมยงค์ ท่าช้าง ราชนาวีสโมสร สวนนาคราภิรมย์ ท่าเตียน และท่าเรือวัดโพธิ์ โซนที่ 3 โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี กำกับดูแล 3 จุด คือ ใต้สะพานพระราม 8 ฝั่งธนบุรี สวนหลวงพระราม 8 และใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ฝั่งธนบุรี และโซนที่ 4 โรงพยาบาลศิริราช กำกับดูแล 6 จุด คือ สวนสุขภาพฯ โรงพยาบาลศิริราช อุทยานสถานพิมุข วัดระฆังดุสิตาราม อู่ทหารเรือธนบุรี หอประชุมกองทัพเรือ/ลานทัศนาภิรมย์ และวัดอรุณราชวรารามฯ นอกจากนี้ ยังมีการดูแลด้านสุขภาพจิต โดยจัดเตรียมทีมสหวิชาชีพประจำจุดคัดกรองวัดอรุณราชวราราม และทีมเคลื่อนที่ประจำจุดบริการต่างๆ ด้วย

นพ.วีรวุฒิ กล่าวต่อไปว่า 2.การส่งกลับสายการแพทย์ไปรักษายังโรงพยาบาล จะประสานงานผ่านศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน กรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) โดยกำหนดโรงพยาบาลรับส่งต่อไว้ 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลวชิรพยาบาล และโรงพยาบาลตากสิน นำส่งโดยรถพยาบาลทั้งระดับพื้นฐาน (BLS) และระดับสูง (ALS) มีรถจักรยานยนต์ตำรวจจราจรโครงการนำทาง และ 3.การกำหนดมาตรการป้องกันและตรวจจับโรคและภัยสุขภาพ โดยจะรวบรวมข้อมูลจากการให้บริการทางการแพทย์ ให้คำปรึกษาในด้านการป้องกันและควบคุมโรค พร้อมกำหนดมาตรการป้องกันโรคต่างๆ