“พล.อ.สุรยุทธ์” ปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 สร้างโอกาสการเรียนรู้ให้กับเยาวชน พร้อมสร้างสรรค์ทำสิ่งที่ดีแก่ครอบครัวและชุมชน

24 ต.ค. 2567 / พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เป็นประธานในพิธีปิดโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 โดยมี ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM และร้อยตำรวจโท อาทิตย์ บุญญะโสภัต เลขานุการนายกมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” พร้อมด้วยเยาวชน 320 คน จาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมพิธีปิดฯ ดังกล่าว ณ พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช. ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” กล่าวว่า “ปีนี้โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 มีเยาวชนจาก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 320 คน มาทำกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโอกาสที่ได้อยู่ร่วมกันกับครอบครัวอุปถัมภ์ ถึงแม้เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่า สิ่งสำคัญโครงการฯ นี้ จะช่วยให้เยาวชนได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เกิดความเข้าใจตนเองและคนรอบข้างมากขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์แบ่งปันการเรียนรู้ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกัน นำไปสู่พัฒนาท้องถิ่นของตนเองให้มีคุณภาพ ชีวิตที่ดี มีความสงบสุข พร้อมมุ่งสร้างสรรค์ทำสิ่งที่ดีแก่ครอบครัวและชุมชน ตามแนวคิด “ปัญหาที่อยากแก้ ความดีที่อยากทำ” เพื่อสืบสานปณิธานของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ที่ว่า “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” และขอให้เยาวชนทุกคนทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศต่อไป”

ด้าน ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) หรือ NSM กล่าวว่า “NSM มีส่วนร่วมในโครงการฯ ในจัดการจัดกิจกรรมค่าย “เปิดโลกการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่นที่ 43” โดยเยาวชนได้สนุกสนานไปกับการเรียนรู้และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ ภายในพื้นที่ อพวช. คลองห้า ปทุมธานี นอกจากนี้ ยังได้ทำกิจกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์หลากหลาย ที่พร้อมส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนได้พัฒนากระบวนการคิด แก้ปัญหา และสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยตนเองตามหลักการเรียนรู้แบบ STEM EDUCATION ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการสร้างบุคลากรที่เป็นอนาคตของชาติ นอกจากนั้น ยังเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพ สร้างความมั่นใจทำให้เกิดความพร้อมที่จะอยู่ร่วมกัน ช่วยสร้างสรรค์และพัฒนาชาติได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนนำไปสู่ความสมานฉันท์ในสังคมต่อไป”