22 ตุลาคม 2567/ นางภัทริยาวรรณ พันธุ์น้อย ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ และรองโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในฐานะหน่วยงานหลักด้านการจัดการศึกษา มีนโยบายการบริหารจัดการชั้นเรียนแบบครูเลื่อนชั้นตามนักเรียน โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพผ่านการศึกษาที่ครอบคลุม รวมถึงส่งเสริมและช่วยเหลือแก้ปัญหาการเรียนรู้พฤติกรรมผู้เรียนเพื่อวิเคราะห์เป็นรายบุคคล ให้ครูสามารถวางแผนการสอนที่เหมาะสมและตรงกับทักษะของนักเรียนแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการนี้ สพฐ. ได้มีหนังสือสำรวจความประสงค์ไปยังโรงเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการ ซึ่งถือเป็นบันไดขั้นแรกในการเรียนรู้พฤติกรรมของเด็กที่ชัดเจน ทำให้ส่งเสริมทักษะและพัฒนาความสามารถเด็กได้ถูกทาง หากพบรอยต่อความบกพร่องที่เป็นสาเหตุให้เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จนอาจจะทำเด็กมีโอกาสเสี่ยงหลุดออกจากระบบการศึกษา
“เรื่องนี้จะเป็นแนวทางนำร่องก่อน เพื่อให้สอดคล้องนโยบาย “เรียนดี มีความสุข” ของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในการเปิดกว้างให้โรงเรียนที่มีความพร้อม สมัครเข้าร่วม โดย สพฐ.เชื่อมั่นว่าการวางรากฐานการศึกษาที่ดีตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงระดับประถมศึกษาตอนต้น เป็นหัวใจสำคัญสำหรับความสำเร็จในชีวิตต่อไปในทุกระดับ หากนักเรียนได้พบครูที่เอาใจใส่ มีความผูกพันและติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดกับผู้ปกครอง สามารถเลื่อนชั้นเรียนตามเด็กได้ มีความชำนาญในการดูแลเด็กเล็ก ยกตัวอย่างเช่น รักเด็ก ใจดี อบอุ่น มีความอ่อนโยน ร้องเพลงได้ เล่านิทานเก่ง เต็มไปด้วยพลังบวก กอดและปลอบประโลมเป็น เพราะครูที่รักและเข้าใจปัญหาของเด็กจนเกิดความผูกพันกับเด็ก จะทำให้เด็กมีความสุข มีความคิดสร้างสรรค์ เกิดแรงบันดาลใจอยากไปโรงเรียนทุกวัน ซึ่งการวางรากฐานที่ดีให้กับเด็กได้อย่างมั่นคงแล้ว ในอนาคตเด็กเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน” รองโฆษก ศธ. กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนงานตามนโยบายให้เป็นประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ขอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาทุกเขต ดำเนินการแจ้งโรงเรียนในสังกัดที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการตามความสมัครใจ โดยตอบแบบสำรวจตามแบบฟอร์ม QR Code ภายในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาต่อไป