สถานการณ์การท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 14 – 20 ตุลาคม 2567

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นจากการเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของภูมิภาคยุโรป และภูมิภาคอเมริกา โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.56 จากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5,191 คน หรือร้อยละ 21.54 จากสัปดาห์ก่อนหน้าและขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นอันดับที่ 4 จากเดิมในอันดับที่ 5 ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) เดินทางเข้ามาลดลง จากการชะลอตัวด้านการเดินทางก่อนมีวันหยุดต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ส่งผลให้ภาพรวมในสัปดาห์นี้ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 575,142 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 273 คน หรือร้อยละ 0.05 คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 82,163 คน โดย 5 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ จีน (93,223 คน) มาเลเซีย (77,723 คน) อินเดีย (39,900 คน) รัสเซีย (29,628 คน) และเกาหลีใต้ (29,313 คน) โดยนักท่องเที่ยวรัสเซีย จีน และอินเดีย มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 21.24 ร้อยละ 7.83 และร้อยละ 6.03 ตามลำดับ ในขณะที่นักท่องเที่ยวมาเลเซีย และเกาหลีใต้มีการปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 9.20 และร้อยละ 4.62

สําหรับในสัปดาห์ถัดไป คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น จากปัจจัยส่งเสริมการเดินทาง ได้แก่ เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) ที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น การมีมาตรการ Ease of traveling ของรัฐบาล ที่ช่วยเพิ่มการอํานวยความสะดวกในการเดินทางสู่ไทย การยกเว้นบัตร ตม.6 ในด่านทางบก รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจํานวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น

สําหรับภาพรวมการท่องเที่ยวในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูล ณ วันที่ 21 ต.ค. 67 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 20 ต.ค. 67 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น 27,794,011 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,297,614 ล้านบาท โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน (5,567,725 คน) มาเลเซีย (3,983,405 คน) อินเดีย (1,645,960 คน) เกาหลีใต้ (1,476,061 คน) และรัสเซีย (1,235,507 คน)