“นภินทร” รมช.พาณิชย์ นำทีมลงพื้นที่แหล่งผลิต “ส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตร” สินค้า GI ของดีเมืองชาละวัน ขยายช่องทางการตลาด สร้างรายได้สู่ชุมชนอย่างยั่งยืน ย้ำตลาดส้มโอยังสดใส

​เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมกรมทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่แหล่งผลิตส้มโอท่าข่อย สินค้า GI ของดีประจำเมืองพิจิตร ย้ำตลาดส้มโอเติบโตสูง ตอบโจทย์สายรักษ์สุขภาพ เร่งเดินหน้าผลักดันการขยายช่องทางการตลาด และสนับสนุนการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตรเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายนภินทร เปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้วยสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าอัตลักษณ์ชุมชนผลักดันการขึ้นทะเบียนสินค้า GI และการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน ตลอดจนมีการขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้า GI ไทย และด้วยสินค้า GI มีความเชื่อมโยงกับพื้นที่แหล่งผลิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งผลให้สินค้ามีอัตลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้สินค้า GI เป็นสินค้าสำคัญที่ขับเคลื่อนโยบาย Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาลด้วย ซึ่งปัจจุบันมีสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI ทั่วประเทศแล้ว 212 สินค้า สร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจของประเทศกว่า 76,000 ล้านบาทต่อปี สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการในชุมชน นำมาสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น”

นายนภินทร กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในการลงพื้นที่จังหวัดพิจิตรครั้งนี้ ได้พูดคุยกับกลุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตร พร้อมกล่าวชื่นชมสวนส้มโอลุงแล สวนส้มโอท่าข่อยที่มีศักยภาพในพื้นที่ ปลูกส้มโอมากว่า 20 ปี นอกจากจะได้รับรองเรื่องคุณภาพผ่านการอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ GI ไทยแล้ว และย้ำว่าโอกาสการเติบโตของตลาดส้มโอยังมีสูง เนื่องจากเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง โพแทสเซียม และสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ เป็นที่ต้องการของตลาดสุขภาพซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นโอกาสสำหรับส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตร ของดีเมืองพิจิตรในการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวของส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตรที่มีรสหวานอมเปรี้ยว เนื้อสีชมพูอ่อนๆ ฉ่ำน้ำ มีเมล็ดน้อย หรือไม่มีเมล็ด ด้วยลักษณะภูมิศาสตร์ที่เป็นพื้นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำยม แม่น้ำน่านและแม่น้ำพิจิตรไหลผ่าน จึงทำให้ดินในพื้นที่ดังกล่าวอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การปลูกส้มโอ ปัจจุบันส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตรทำรายได้ให้กับเกษตรกรในจังหวัดกว่า 36,000 ล้านบาท และมีผลผลิตออก สู่ตลาดกว่า 42,000 ตัน/ปี”

​นายนภินทร ทิ้งท้ายว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าส่งเสริมการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าให้กับผู้ผลิตและผู้ประกอบการค้าส้มโอท่าข่อยเมืองพิจิตรต่อไป ทั้งนี้ สำหรับเกษตรกรหรือชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดใดสนใจนำสินค้าชุมชนที่มีอัตลักษณ์และ เชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ สามารถนำมาปรึกษาเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ศูนย์บริการประชาชน กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368