วันที่ 9 ตุลาคม 2567 ที่กระทรวง พม. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) แถลงผลงาน 1 ปี และมอบนโยบาย กระทรวง พม. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 “NEXT STEP พม.” โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงาน พร้อมคณะผู้บริหาร หัวหน้าและเจ้าหน้าที่หน่วยงานส่วนกลางสังกัดกระทรวง พม. เข้าร่วมงาน ณ ห้องประชุมปกรณ์ อังศุสิงห์ ชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ พร้อมทั้งหัวหน้าและเจ้าหน้าที่หน่วยงานทีม พม. หนึ่งเดียวจังหวัดทั่วประเทศรับชมถ่ายทอดสดผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายวราวุธ กล่าวว่า 1 ปีที่ผ่านมา ในบ้านสีชมพูหลังใหญ่แห่งนี้ ตนขอบคุณอย่างจริงใจ ต่อผู้บริหาร เพื่อนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และเครือข่ายต่างๆ ที่ได้ทุ่มเททำงานนอย่างหนัก เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ฟื้นฟู เยียวยา จนเกิดเป็นทีม “พม.หนึ่งเดียว” และด้วยสถานการณ์ปัจจุบันในขณะนี้ มีความรุนแรงยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาวิกฤตประชากรจากเด็กเกิดน้อย แรงงานลด และผู้สูงอายุเพิ่ม ภาวะโลกร้อนกับคนเปราะบาง ซึ่งมีขีดความสามารถในการปรับตัวรับมืออย่างจำกัด โดย 1 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์ปัญหาที่มีและยังมีอยู่ เราจะทำอย่างไรให้ระบบสวัสดิการสังคมยั่งยืน สามารถแก้ปัญหาได้แท้จริง ไม่ใช่เฉพาะหน้า แต่ต้องยั่งยืน และเหมาะสมกับสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยขีดความสามารถ และข้อจำกัดของภาครัฐ ด้านงบประมาณ และกฎหมายที่มีอยู่ไม่ตอบโจทก์ ฐานข้อมูลด้านสังคม ทักษะและความรู้เฉพาะทาง
นายวราวุธ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนในการดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระทรวง พม. ได้แก่ ข้อที่ 5 เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกลับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน และการประกอบอาชีพ และข้อที่ 10 ส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคม ให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง สร้างความเท่าเทียมทางโอกาสและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่สำคัญ ได้แก่ คนพิการ ผู้สูงอายุ กลุ่มชาติพันธุ์ บุคคลไร้รัฐ ไร้สัญชาติ เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐได้โดยสะดวกตามที่กฎหมายบัญญัติ นอกจากนี้ ยังมีนโยบายที่สำคัญคือการเสริมการเกิดและเติบโตอย่างมีคุณภาพของเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม เด็กไทยทุกคนจะต้องเข้าถึงศูนย์ดูแลเด็กปฐมวัยที่มีมาตราฐาน พร้อมยกระดับทักษะและปลดล็อกศักยภาพของคนไทย เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ เสริมทักษะเดิม เพิ่มทักษะใหม่ ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและภาคเอกชนดึงศักยภาพของผู้สูงอายุมาใช้ให้เกิดประโยชน์
นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้ขับเคลื่อนนโยบายภายใต้วิสัยทัศน์ : คนไทยมีความมั่นคงในชีวิตและสวัสดิการที่เหมาะสม โดยยึดนโยาย 5X5 ฝ่าวิกฤตประชากร ในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีภารกิจหลักคือ พัฒนาศักยภาพ และสร้างโอกาสให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ยากไร้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้กลุ่มเปราะบางก้าวข้ามคำว่า “เปราะบาง” มีงาน มีรายได้ สามารถอยู่ร่วมในสังคม และพร้อมส่งต่อโอกาสสู่ผู้อื่นต่อไป และเราได้จัดตั้งศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน หรือ ศรส. เพราะเหตุด่วน เหตุร้ายทางสังคม ต้องรวดเร็วในการเข้าถึงปัญหา แก้ปัญหาตรงจุด ติดตามและรายงานผลอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นภารกิจร่วมกันของทุกหน่วยงานภายใต้ ศรส. นอกจากนี้ เรามีการเสริมสร้างขีดความสามารถในการปรับตัว (Adaptive Capacity) ต่อผลกระทบจากโลกร้อน สำหรับกลุ่มคนเปราะบาง ซึ่งเราต้องรู้ ต้องเข้าใจผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และเราจะต้องสร้างขีดความสามารถในการปรับตัวให้
นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการทำงานของกระทรวง พม. ในปีที่ 2 เราจะเร่งต่อยอดงานที่ทำแล้ว พร้อมๆ กับเร่งพัฒนางานใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องต่อไป ตามนโยบายรัฐบาล โดยในด้านเด็ก ต้องเติบโตสมวัย อย่างมีคุณภาพ ด้วยการพัฒนาศูนย์เด็กเล็ก สร้างความมั่นคงในระบบเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด และสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาศักยภาพเด็ก สำหรับคนพิการนั้น กระทรวง พม. จะต้องสร้างโอกาสในชีวิต จากเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท จัดให้มีล่ามภาษามือครบทุกจังหวัด ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ทั้งภาครัฐและเอกชน พัฒนานวัตกรรมกายอุปกรณ์และเครื่องช่วยความพิการ และสร้างเจตคติเชิงบวกต่อสังคม ส่วนผู้สูงอายุ จะต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน เช่น ผลักดันให้เกิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในชุมชน โครงการบริบาลและคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ ผลักดันการจ้างงานผู้สูงอายุ รวมถึงปรับปรุงที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ และสุดท้ายคือผู้ยากไร้ เราจะต้องสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ชุมชน โดยต้นแบบจากนิคมสร้างตนเอง สร้างโอกาส มีบ้าน มีสุข เพื่อให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้ และส่งเสริมความร่วมมือทุนทางสังคมในการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง
นายวราวุธ กล่าวว่า ก้าวต่อไปในปีที่ 2 และต่อๆ ไป นั้น เราจะมุ่งมั่นสร้างสรรค์สังคมไทยให้ทุกคนมีความมั่นคงในชีวิตอย่างพอเพียง โดยเริ่มที่การพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ชัดเจน ปลอดภัย และเป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลร่วมกัน ภายใต้แนวทางฐานข้อมูล พม.ดิจิทัล ภายในปีงบประมาณ 2568 นี้ และต่อด้วยโครงการ Flagship 9 โครงการ ที่ต่อยอดนโยบาย 5×5 ฝ่าวิกฤตประชากร ประกอบด้วย 1. ยกระดับการพัฒนาศักยภาพเด็กปฐมวัย 2. ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุ 3. สร้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนเปราะบาง โดยเฉพาะคนพิการ ผู้สูงอายุ และสร้างต้นแบบนิคมสร้างตนเอง 4. พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ให้เข้าถึงสิทธิ และการจัด Friendly Design ที่เหมาะแก่คนพิการ 5. สร้างหุ้นส่วนทางสังคม สู่สวัสดิการที่ยั่งยืน ด้วยการพัฒนาระบบ CSR ดึงภาคเอกชน สร้างพันธมิตรทางสังคมระบบอาสาสมัคร 6. แผนจัดการผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติต่อกลุ่มเปราะบาง 7. การขับเคลื่อนพันธกรณีระหว่างต่างประเทศที่สำคัญ 8. การสื่อสารประชาสัมพันธ์ทางสังคมเชิงรุก และ 9. พัฒนาศักยภาพบุคลากร พม.
นายวราวุธ กล่าวว่า ทั้งหมดนี้ เป็นภารกิจทางสังคมของกระทรวง พม. เพื่อพี่น้องประชาชนคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มคนเปราะบาง ทั้งนี้ เราทีม พม.หนึ่งเดียว จะทำภารกิจนี้ไปด้วยกัน และตนยินดีรับฟังทุกภารกิจ และสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ขอให้พวกเราคุยกัน ปรึกษาหารือกัน และทำงานด้วยกันแบบ “พม.หนึ่งเดียว” ภายใต้บ้านสีชมพูหลังนี้ ถึงแม้งานของเรานั้นต้องเสียสละอย่างมาก แต่ขอให้ทุกคนเริ่มต้นที่ตัวเรา มั่นใจ และภูมิใจว่า ทุกสิ่งที่เราทำ ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อตัวเรา แต่เพื่อพี่น้องคนไทย ประเทศไทย และยังส่งผลต่อความยั่งยืนของโลกใบนี้ โดยที่เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง #NEXTSTEPพม #แถลงผลงาน #นโยบาย5×5ฝ่าวิกฤตประชากร